ล่าสุดน้ำหอมแบรนด์โปรดของใครหลายๆ คนได้ออกน้ำหอมรุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถผสมผสานกลิ่นได้ตามใจ “Chloé Atelier des fleurs” ที่สามารถสร้างสรรค์กลิ่นเฉพาะตัวตามต้องการได้ โดยทางแบรนด์ได้เปรียบเช่นเดียวกับการเลือกดอกไม้ที่ชื่นชอบเพื่อจัดเป็นช่อดอกไม้ในร้านดอกไม้ แต่ละกลิ่นในคอลเลคชั่นล้วนมีส่วนผสมของดอกไม้ สารประกอบอะโรมาติก (aromatic) หรือกลิ่นไม้หอมผสมอยู่ จึงสามารถใช้แยกได้ หรือนำมาผสมผสานกันให้เกิดความหลากหลาย ได้ออกมาเป็นกลิ่นเฉพาะตัว
โดยที่ทางคอลเลคชั่นนี้ มีกลิ่นที่เคยออกมาแล้วถึง 12 กลิ่น และล่าสุดได้ออกกลิ่นใหม่มาทั้งหมด 3 กลิ่นด้วยกัน แถมยังเป็นกลิ่นที่นักปรุงน้ำหอมชื่อดังของวงการเป็นผู้ปรุงแต่งขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจจากกลิ่นที่เคยสัมผัสมาในอดีต เกิดเป็นกลิ่นหอมเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ซึ่งผ่านการตีความขึ้นมาใหม่จากกลิ่นดอกไม้ในดวงใจของแต่ละคน
“Atelier des fleurs” เป็นไลน์ของน้ำหอมใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และส่วนผสมที่มาจากพืชพรรณ ทำมาจากกลิ่นหอมซึ่งมีที่มาจากธรรมชาติ 100%, ดอกไม้ที่เป็นส่วนผสม (ดอกกระดังงา, ดอกนาร์ซิสซัส และดอกไอริส) ผ่านกรรมวิธีการปลูกอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการดีไซน์ใหม่ให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นด้วย นักปรุงน้ำหอมเลือกใช้ได้เพียงสิ่งที่มาจากธรรมชาติทั้งหมดเท่านั้น
ด้วยส่วนผสมอันประกอบด้วยกลิ่นหอมที่มาจากธรรมชาติ 100%, แอลกอฮอล์สกัดจากธรรมชาติ* และน้ำ Narcissus Poeticus, Iris และ Ylang Cananga คือน้ำหอมในสไตล์วีแกน (vegan) ที่ปราศจากสารคัดกรอง สารแต่งสีสังเคราะห์
มีเพียงวัตถุดิบคุณภาพสูง
วัตถุดิบที่ใช้พัฒนาไปอีกขั้น บางส่วนของขวดและกล่องทำจากวัตถุดิบที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว (10% และ 40% ตามลำดับ) นอกจากนี้ Chloé ยังเปลี่ยนการพิมพ์ฉลากจากวิธีปั๊มฟอยล์ด้วยความร้อน เป็นวิธีอื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
มีทั้งหมด 3 กลิ่นได้แก่
NARCISSUS POETICUS โดย ฟิลิปปิน กูติแยร์ (Philippine Courtière)
สดชื่นและมีกลิ่นแป้งจางๆ Narcissus Poeticus คือความทรงจำอันแสนสุขของความรื่นรมย์ในฤดูใบใม้ผลิ เท่าที่ ฟิลิปปิน กูติแยร์ จำความได้ ดอกนาร์ซิสซัส คือดอกไม้แรกที่เธอหลงรัก และความรักนั้นเริ่มตั้งแต่ยังเยาว์วัย เมื่อเธอไปเดินเล่นที่สวน Jardin du Luxembourg กับคุณยาย แล้วเก็บดอกไม้ที่มีกลิ่นน้ำผึ้งอ่อนโยนนี้มาทำช่อดอกไม้ ดอกนาร์ซิสซัสของเราเก็บเกี่ยวมาจากในประเทศฝรั่งเศส ด้วยกรรมวิธีที่เน้นความมีจริยธรรม และยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม
IRIS โดย สตีฟ โกว (Steve Guo)
ท่ามกลางเทือกเขาแอตลาส (Atlas Mountains) ในประเทศโมร็อกโก คือสถานที่ที่ สตีฟ โกว ค้นพบความงามและความซับซ้อนในกลิ่นของดอกไอริส เป็นครั้งแรก มันคือดอกไม้ที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ รักแสงแดด และมักขึ้นเรียงรายตามเนินเขาและที่ราบสูงให้งดงามด้วยสีน้ำเงินอมม่วงหลังจากการเก็บเกี่ยว รากของมันจะถูกนำไปตากแห้งเป็นเวลาหลายเดือนในถุงปอกระเจาขนาดใหญ่ เพื่อให้ปล่อยไอระเหยอันอ่อนโยนชวนหลงใหลออกมา กลิ่นแสนโดดเด่นของมันสร้างความประทับใจให้แก่นักปรุงน้ำหอมอย่าง สตีฟ โกว จนเขาปรารถนาที่จะนำเสนอออกมาในรูปแบบน้ำหอมที่ไม่มีใครเหมือนดอกไอริสถูกเก็บเกี่ยวมาจากประเทศโมร็อกโก ด้วยกรรมวิธีที่เน้นความมีจริยธรรม และยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม
YLANG CANANGA โดย เซิร์จ เดอ โอลิเวรา (Serge de Oliveira)
บนเกาะโนซีบี (Nosy Be) ในประเทศมาดากัสการ์ มีขุมสมบัติอยู่ นั่นคือทุ่งดอกกระดังงา ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เซิร์จ เดอ โอลิเวรา จำกลิ่นของมันได้ดี ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นของความเป็นครอบครัว กลุ่มผู้เก็บเกี่ยวดอกไม้จะเด็ดมันออกมาทีละดอก ด้วยการเคลื่อนไหวที่แม่นยำ คล่องแคล่ว และเป็นจังหวะจนแทบจะดูราวพวกเขากำลังเต้นรำอยู่ จากนั้นแต่ละคนจะวางดอกกระดังงาลงในตะกร้า ส่งกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ เซิร์จ เดอ โอลิเวรา อยากจะสร้างสรรค์กลิ่นที่เร้าอารมณ์ เนียนนุ่ม และกรุ่นแสงอาทิตย์นี้ออกมา ดอกกระดังงาถูกเก็บเกี่ยวมาจากในประเทศมาดากัสการ์ ด้วยกรรมวิธีที่เน้นความมีจริยธรรม และยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม
Chloé Atelier des fleurs Naturelle พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ที่เคาน์เตอร์น้ำหอม Chloé สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม, สยาม ทาคาชิมายะ และ ร้าน Sephora สาขาสยามเซ็นเตอร์ หรือช้อปออนไลน์ได้ทาง M Online และ Sephora Online โดยขนาด 50 มล. ราคา 5,500 บาท และขนาด 150 มล. ราคา 10,500 บาท
