เชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนมักพบปัญหาสิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะสิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวอุดตัน เพราะไม่ว่าจะเป็นสิวแบบไหนก็สามารถสร้างความกวนใจหรือทำให้หมดความมั่นใจไปได้ง่ายๆ เราก็เป็นอีกคนที่พบเจอปัญหาสิวอุดตันอยู่บ่อยๆ เข้าใจเลยว่าสร้างความน่ารำคาญแถมยังทำให้ไม่มั่นใจในตัวเองในช่วงเวลานั้นไปอีก บางทีก็งงว่า สิวอุดตันมาได้ยังไง สิวอุดตันหัวปิดและหัวเปิดต่างกันยังไง จนต้องมานั่งสาเหตุจริงจัง ซึ่งก็ทำให้เราเข้าใจสาเหตุของการเกิดสิว และ แก้ไขปัญหาสิวที่มากวนใจได้ถูกวิธี ว่าแล้ววันนี้เลยขอเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังว้าวุ่นใจกับปัญหาสิวอุดตัน ให้ได้รู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อต้องเจอสิวอุดตัน กันค่ะ เมื่อเราเข้าใจ‘ปัญหาสิว’ ก็จะบอกลาสิวได้ไม่ยาก ว่าแล้วอย่ารอช้า ตามมาดูกันเลย!!
สิวอุดตันหัวปิด และ สิวอุดตันหัวเปิด คืออะไร?
อ่านหัวข้อแล้วอย่าเพิ่งงงกันไปจ้า…ใช่แล้วค่ะเพื่อนๆ สิวอุดตัน มี 2 ประเภท แต่ก่อนเราจะไปทำความรู้จักแต่ละประเภท เรามาทำความรู้จัก สิวอุดตัน หรือ สิวไขมันอุดตัน กันก่อน
สิวอุดตัน คือสิวที่ไม่อักเสบ จะมีลักษณะเป็นตัวสิวนูนออกมาจากผิวหนัง หากใช้มือลูบจะสัมผัสได้ถึงความไม่เรียบของผิว ซึ่งบางครั้งสิ่งอุดตันที่เราเรียกว่าหัวสิวจะโผล่ออกมาให้เห็นได้ชัดเจน โดยชนิดของสิวอุดตันมีทั้งหัวเปิด และ หัวปิด ว่าแต่เป็นยังไงนั้น มาทำความรู้จักสิวอุดตันหัวปิด และสิวอุดตันหัวเปิดกันเลย
สำหรับสิวอุดตันใต้ผิวหนังมีด้วยกันทั้งหมด 2 ชนิด ได้แก่ สิวอุดตันหัวปิดหรือสิวหัวดำและ สิวอุดตันหัวเปิดหรือสิวหัวขาว
สำหรับสิวอุดตันหัวปิด หรือ สิวหัวดำ จะมีลักษณะเป็นสิวหัวดำแข็งที่สามารถเห็นหัวสิวได้จากภายนอก โดยการอุดตันของสิวชนิดนี้เกิดจากอุดตันของไขมันเซลล์ต่างๆ และเส้นขน เมื่อสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันและเมื่อโดนอากาศจะทำให้สีเป็นสีดำได้จนกลายเป็นสิวอุดตันหัวดำนั้นเอง
และสิวอุดตันหัวเปิด หรือ สิวหัวขาวเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน เมื่อแบคทีเรีย ซีบัมและเคราตินรวมตัวกันจะเกิดเป็นถึงซีสต์ (Cystic Space) ซึ่งหากไม่รักษาและปล่อยไปเรื่อยๆ เมื่อสิ่งสกปรกเข้ามา อาจจะทำให้กลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด
สาเหตุการเกิดสิวอุดตันหัวปิด และ สิวอุดตันหัวเปิด
การเกิดสิว นั้นเกิดได้หลายสาเหตุ เพื่อนๆ คนไหนสิวเจอปัญหาสิว เราอาจจะต้องมาไล่เช็กดูสาเหตุของการเกิดสิวต่างๆ เพื่อไล่แก้ปัญหาให้ถูกวิธีกันนะคะ ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันหัวปิด และ สิวอุดตันหัวเปิด มีดังนี้
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น ที่มีฮอร์โมนบางตัวทำให้เกิดปัญหาสิวได้อย่างง่ายดาย
- เครื่องสำอางอุดตัน จากการล้างหน้าไม่สะอาด
- กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวเคยเปิดสิวชนิดนี้ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวชนิดเพิ่มขึ้นกว่าคนปกติ
- การดูแลตัวเอง จากผิวที่สกปรก เกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด หรือ เกิดจากการสัมผัสผิวอย่างรุนแรง
- การใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ เป็นต้น
- การสูบบุหรี่ อาจจะเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้
วิธีการดูแลตัวเองเมื่อเกิดสิวอุดตัน
หากเพื่อนๆ พบว่าตัวเองกำลังเจอสิวอุดตันแล้วละก็ สามารถเริ่มต้นดูและแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง ส่วนปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้เช่นเรื่อง กรรมพันธุ์หรือฮอร์โมน เราก็มีวิธีหลีกเลี่ยงการเจอปัญหาอุดตันเช่นกัน โดยการดูแลตัวเองเมื่อมีสิวอุดตันสามารถปฏิบัติได้ตามนี้เลยค่ะ
- ดูแลผิวและใบหน้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อลดความมันแหล่งกำเนิดสิวอุดตัน
- เลือกเครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิว ที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่าย ที่เป็นปัญหาทำให้เกิดสิวอุดตัน
- ไม่ควรเอามือมาสัมผัสใบหน้า หลีกเลี่ยงการจับหน้า หากจับหน้าควรจะล้างมือให้สะอาดก่อน
- พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมน
- ลดอาหารที่มีน้ำมันหรือไขมัน ที่เมื่อรับประทานเยอะๆ อาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันได้
- หากพบปัญหาสิวอุดตันและ เริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางรักษาปัญหาสิวอุดตันของแต่ละคน
วิธีการรักษาสิวอุดตัน
1.การเลเซอร์สิวอุดตัน
เป็นวิธีการใช้เลเซอร์แบบต่างๆ ที่ทำโดยแพทย์ผิวหนัง เพื่อแก้ปัญหาสิวอุดตันหัวปิดและหัวเปิดบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นการรักษาที่เห็นผลค่อนข้างเร็ว เหมาะกับสิวอุดตันจำนวนมาก ที่อยู่ลึกและกดยาก
2.การใช้ยาทาเฉพาะที่
โดยยาเฉพาะที่ทานั้นจะมาในรูปแบบเจลหรือครีมที่มีส่วนประกอบ เช่น
–เรตินอยด์ (Retinoid) อาจช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงอาจช่วยยับยั้งการเกิดสิวใหม่ แต่อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวแห้ง แดง และลอกได้
–เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย C.acne สาเหตุของการเกิดสิว
–กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และอาจช่วยป้องกันการอุดตันรูขุมขน
–กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และอาจช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตัน
3.การใช้เครื่องผลักวิตามิน
เป็นการใช้เครื่องมือผลักวิตามินร่วมกับการใช้เจลวิตามินเอเพื่อรักษาสิวอุดตัน (หลักการเดียวกับการใช้ยาทากลุ่มเรตินอยด์ แต่ได้ผลเร็วกว่า ซึ่งการทำช่วงแรกๆ อาจจะทำให้ ผิวหน้าแห้งหรือลอกเป็นขุยเหมือนยาทาโดยปกติจะแนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
4.การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว
เป็นทางเลือดโดยการใช้น้ำยาเคมีนำมาทาบนผิวหน้าเพื่อทำให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังชั้นบนที่ตายแล้ว ตามมาด้วยการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เป็นการช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้สิวอุดตันฝ่อตัวและหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น
5.ใช้ยาทากลุ่มเรตินอยด์
ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ มีอยู่ด้วยกัน 2 ตัวหลักๆ คือ Tretinoin และ Adapalene ใช้เป็นการรักษาสิวอุดตันหัวปิดและหัวเปิด ทำร่วมกับการกดหัวสิวออกในรายที่จำเป็น โดยมีฤทธิ์เร่งการสร้างเซลล์และผลัดเซลล์ผิว โดยเฉพาะที่ผนังรูขุมขน ทำให้หัวสิวหลุดลอก และลดปัญหาสิวอุดตัน
6.ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน
การล้างหน้า คือ วิธีที่จะช่วยเคลียร์สิ่งสกปรกบนใบหน้าได้ดี หากเราล้างหน้าไม่สะอาด ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายๆ
หากใครกำลังมองหาไอเทมช่วยดูแลสิวอุดตันอยู่ เราก็มีไอเทมใหม่มาแนะนำ นั่นก็คือ Benzac Spots Daily Facial Foam Cleanser ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนามาสำหรับผิวมัน ผิวผสม ผิวที่เป็นสิวง่าย ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติของ Calendula และ Aloe vera ช่วยขจัดสิ่งสกปรก และควบคุมความมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังการใช้ แถมยังผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง มาพร้อมกับคุณประโยชน์จากสารสกัดธรรมชาติ 2 ชนิดไม่ว่าจะเป็น
Calendula Extract
มีส่วนช่วยปลอบประโลมผิวที่มีปัญหาเป็นสิวง่าย ทั้งยังลดการระคายเคืองจากผิวแห้ง และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวแลดูมีสุขภาพดีและอ่อนเยาว์
Aloe Vera Extract
ช่วยฟื้นฟูและคงความชุ่มชื้น ให้ผิวดูแข็งแรง และลดเลือนรอยแดงจากผิวแห้ง และลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
มาในรูปแบบของขวดบรรจุโฟมอ่อนนุ่ม วิธีการใช้เพียงกดโฟม (1-2 ครั้ง) ลงบนฝ่ามือ นวดโฟมให้ทั่วใบหน้าและลำคอที่เปียก โดยวนเป็นวงกลมเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้เป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้า และตอนเย็น
ต้องบอกเลยว่าจากที่ได้ลองใช้ Benzac Spots Daily Facial Foam Cleanser พบว่ามันน้อยลงและไม่แห้งตึง สิวอุดตันบางเม็ดหลุดออกง่ายขึ้น ทั้งยังพบว่าผิวหน้ากระจ่างใส เพราะปราศจากความมันจากไขมันส่วนเกินบนหน้าซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอุดตัน
7.รับประทานยารักษาสิวอุดตัน
สำหรับบางคนที่มีปัญหาสิวอุดตันจนทำให้เกิดความไม่มั่นใจและมีสิวอักเสบร่วมด้วย อาจจะลองปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะ
8.ยาปรับฮอร์โมนในร่างกาย
สามารถรถปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาปรับฮอร์โมนเพื่อเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งจะส่งผลในการรักษาและลดการเกิดสิวอุดตัน หรือยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Anti-Androgenic) เพื่อลดผลกระทบจากฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน
9.การฉีดสเตียรอยด์
ใช้การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไป ซึ่งรักษาด้วยวิธีนี้อาจช่วยบรรเทาอาการปวดและอาจหายไวขึ้น แต่มีผลข้างเคียงอาจทำให้ผิวหนังบางลงและเปลี่ยนสีในบริเวณที่รักษาได้
10.การกดสิวอุดตัน
เป็นอีกวิธีที่หลายคนนิยมใช้เพราะเป็นวิธีเป็นการเอาหัวสิวออกจากผิวหนังได้ง่ายและเร็วมากขึ้น แต่การกดสิวอุดตันเองหากทำเองและทำผิดวิธีอาจจะทำให้เกิดปัญหาสิวอักเสบตามมาก ดังนั้นควรกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ
3 วิธีดูแลปัญหาสิวสวยครบทุกขั้นตอน
1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนเหมาะกับผิว เพื่อเตรียมผิวก่อนใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
2.ปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวให้เหมาะสมกับลักษณะสิวที่เป็น
3.การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและปราการผิวแข็งแรง
คิดว่ามาถึงตอนนี้เพื่อนๆ น่าจะมีความเข้าใจปัญหาของสิวอุดตัน และ เข้าใจวิธีการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสิวอุดตันที่มักทำให้กวนใจแล้วใช่มั้ยคะ เราก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน และ วิธีการดูแลรักษาสิวอุดตันหัวปิดและหัวเปิดให้หายกันมากขึ้น ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นดูแลอย่างไรดี วิธีง่ายๆ เราแนะนำว่าอาจจะเริ่มต้นด้วยการล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนกันก่อนก็ได้ค่ะ ซึ่งหากไม่รู้จะใช้ผลิตภัณฑ์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.vsquareclinic.com/tips/comedones/
https://hellokhunmor.com/สุขภาพผิว/สิว/สิวอุดตันหัวปิด-สาเหตุ-วิธีรักษา/