หลังจากผ่านไปหลายเดือน เราได้เริ่มทดลองใช้สกินแคร์และได้ PICK! ไอเท็มที่ควรค่าแก่การมีไว้ครอบครองสำหรับสายสกินแคร์เป็นที่เรียบร้อย โดยที่เน้นสกินแคร์ที่เหมาะสมกับบ้านเมืองเรา และผิวคนไทยอย่างเราไว้ โดยที่สกินแคร์ที่เราเลือกนั้นมีทั้งไอเท็มที่ออกมาใหม่ได้ไม่นาน และไอเท็มที่มีมานานแล้วยังชอบอยู่ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจงานสกินแคร์ได้ลองอ่านกันดู เพื่อไปตำตามหรือมีปัญหาผิวที่สามารถแก้ได้ตรงจุดมากขึ้น ทีนี้เราไปดูไอเท็มที่เราชื่นชอบกันเลยดีกว่า
la roche-posay SEROZINC OIL BLOTTING MIST 150ML
ตัวแรกเลยเป็นไอเท็มที่ผู้หญิงไทยบ้านเรา ควรมีไว้ในครอบครองเป็นที่สุด นั้นคือสเปร์น้ำแร่สูตรใหม่จาก La roche-posay ซึ่งปกติสเปร์น้ำแร่ของยีห้อนี้ก็เริ่ดอยู่แล้ว แต่สำหรับสูตรใหม่นี้นางมาในชื่อย่อๆ ว่า “สเปรย์ซับมัน” ที่ช่วยลดความมันบนส่วนเกินบนใบหน้า เหมาะกับคนผิวมันเป็นที่สุด แถมยังช่วยกระชับรูขุมขน สามารถใช้แทนโทนเนอร์ได้เลย และยังช่วยให้เมคอัพติดทนนานขึ้นอีก มีส่วนผสมของ Zinc ที่ช่วยเรื่องปัญหาสิว บอกเลยว่าเลิศมาก หยิบมาพ้นแล้วสดชื่น ใครชอบสเปร์น้ำแร่ควรไปตำ!
ขนาด : 300ml
ราคา : 790 บาท
la roche-posay TOLERIANE ULTRA LIGHT (ตัวนี้เป็นสูตรสำหรับคนผิวมัน–ผิวผสม)
ตัวนี้เริ่มใช้ได้ไม่นาน แต่ชอบมากๆ เพราะเป็นช่วงที่ผิวระคายเคืองหนักมาก เลยมาลองตัวนี้ที่นางเคลมว่า “เหมาะสำหรับผิวบอบบางระคายเคืองง่ายเป็นพิเศษ” ด้วยลักษณะเจลบางๆ ที่ไม่ทิ้งความมันไว้ แค่เติมความชุ่มชื่นให้ ทำให้รู้สึกสบายผิวหน้า ช่วยปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคืองผิวได้ดี ไม่มีสี มีกลิ่น หรือแอลกอฮอเลย อ่อนโยนมากๆ สามารถทารอบดวงตาได้ด้วย
ขนาด : 40 ml
ราคา : 960 บาท
- Skin Oxygen Oxygenating Lotion
แค่เห็นชื่อยีห้อก็อยากใช้แล้วสำหรับตัวนี้ เป็นสูตรใหม่ของ “Biotherm” ที่มาสักพักแล้ว สูตร “Skin Oxygen” ที่ช่วยให้ผิวหายใจ ต้านมลภาวะต่างๆ ที่ผ่านมาช่วงนี้ผิวค่อนข้างระคายเคืองหนัก เลยเริ่มคว้าตัวนี้มาใช้ เพราะช่วยฟื้นบำรุงและปลอบประโลมผิวได้ดี ตัวนี้มีส่วยผสมของออยล์ 7 ชนิด แต่ไม่มีความมันบนผิว เย็นสบายผิวหน้าดี ช่วยความคุมความมันนิดๆ ช่วยให้ผิวสดชื่น ดูเปล่งปลั่งขึ้นขนาด : 200 ml
ราคา : 1,000 บาท
- innisfree Black green-tea mask
- “First Care Activating Serum”
- สูตรที่ชอบคือสูตรของ “Frist Care” นี้เองตัวที่เลิฟเป็นพิเศษเลยคือ “First Care Activating Serum” ที่ออกมานานแล้วก็ใช้ติดกันมาหลายขวดมากๆ เพราะช่วยปรับสมดุลผิวให้ผิวสุขภาพแข็งแรง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ผิวดูเปล่งปลั่งแบบมีเลือดฝาด นางดีเลอค่ามากๆ จะช่วยให้ผิวพังๆ ดูแข็งแรงขึ้น กลิ่นจะโสมๆ หน่อย ผ่อนคลายดี ออกแนวสมุนไรที่ช่วยปลอบประโลมผิว ใช้คู่กับ “Essential Balancing Emulsion” ที่เนื้อเบาๆ สบายผิวดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ปรับสมดุลน้ำและน้ำมันให้พอดีกับผิวหน้าSulwhasoo Radiance Energy Mask
ตามมาด้วยตัวสุดท้ายก่อนนอน Sulwhasoo Radiance Energy Mask ที่เป็น Sleeping Mask ก่อนนอนในวันขี้เกียจแต่ต้องการให้เช้ามาผิวสดใส มาร์กตัวนี้จะฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ปรับความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสมดุล ขจัดสารพิษภายใต้ผิวในขณะหลับ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส ตื่นมาผิว นิ่ม เด้ง ฟู เลย
Copyright © Jeab.com
ที่ผ่านมาใช้มาร์กหน้าแบบโคลน innisfree อยู่แล้ว แต่ช่วงหลังมารู้สึกผิวแห้ง แล้วก็เบื่อๆ มาร์กแบบแผ่น เลยอยากลองใช้มาร์กแบบเจลที่ล้างออกดู พอ innisfree ออกเซ็ตปีใหม่เลยได้ลองมาร์กสูตร “Black green-tea mask” แล้วรู้สึกชอบ ด้วยความที่เป็นมาร์กแบบทาที่ไม่แห้ง มีส่วนผสมของ “ชาเขียวดำ” เนื้อมาร์กจะเด้งๆ เหมือนเจลลี่ ตอนทาก็จะมีใบชาติดๆ ออกมาด้วย โดยที่มีประสิทธิภาพเดียวกับมาร์กโคลนเลยคือ ช่วยให้ผิวสะอาดและรูขุมขนกระชับ แต่ชอบฟิลลิ่งที่ล้างออกแล้วหน้านุ่ม ผิวไม่แห้ง และรู้สึกสดชื่นเวลามาร์กไว้
ราคา : 980 บาท
มาถึง Set สุดท้ายที่เราชอบแล้วใช้ในเซ็ตนี้ เป็นสกินแคร์ประจำวัน โดยที่ในเซ็ตมีตัวที่ชอบมาดูกันเลยว่าเราชอบตัวไหนเป็นพิเศษบ้าง (หากอยากดูรีวิวทั้ง Set สามารถดูได้ที่นี้)