การทาอายแชโดว์ให้เปลือกตามีสีสันสวยงาม แม้จะเป็นเรื่องเบสิกที่สาวๆ ที่ชอบแต่งหน้าสามารถทำกันได้ไม่ยาก แต่ขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว หากสาวๆ คนใด ไม่เคยทาอายแชโดว์มาก่อน ก็อาจจะเกิดปัญหา ทาอย่างไรถึงจะออกมาเป๊ะ หรือไม่ก็ เอ๊ะ ทำไมฉันทาแล้วมันเหมือนงิ้ว ซึ่งในจุดนี้สาวๆ ก็ต้องรู้กันด้วยนะจ๊ะว่า ดวงตาแบบเรา ควรทาอายแชโดว์ในแบบไหน? ทาไม่เข้ากับรูปตา ก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้เช่นกัน
วันนี้เลยขอเอาเทคนิคการทาอายแชโดว์สวยๆ ให้เข้ากับดวงตาแต่ละแบบมาฝากให้ชมกันด้วยล่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้า มาชมกันเลยดีกว่า
1. ตาชิด (Close Set Eyes)
สาวๆ ที่มีรูปแบบตาชิด จะมีดวงตาสองข้างอยู่ใกล้กันมากกว่าปกติ ดังนั้นการทาอายแชโดว์สำหรับดวงตารูปแบบนี้ ควรจะโฟกัสที่ความกว้าง โดยการแบ่งเปลือกตาออกมาเป็น 3 ส่วน แล้วทาส่วนสีอ่อนไว้ที่บริเวณหัวตา จากนั้นก็เบลนสี ใช้สีเข้มปานกลางบริเวณตรงกลาง ต่อด้วยสีเข้มที่สุดที่หางตา ส่วนการเขียนอายไลน์เนอร์ เขียนมาเป็นเส้นตรงๆ จากด้านในออกด้านนอกได้เลย
2. ตาห่าง (Wide Set Eyes)
หากสาวๆ คนใดมีตาทั้งสองข้างอยู่ห่างกันมากกว่าปกติ ไม่ต้องกังวลใจไป เราสามารถทาอายแชโดว์แก้ไขให้ดวงตาดูสมส่วนมากขึ้นกันได้ โดยทาอายแชโดว์วนเข้าด้านใน โดยปกติเรามักจะทาออกด้านนอกกันใช่มั้ยคะ แต่สำหรับตารูปแบบนี้ ควรทาในทิศทางตรงข้ามกันแทน และใช้อายแชโดว์สีเข้มไว้ด้านใน ค่อยๆ เบลนออก ให้ด้านนอกเป็นอายแชโดว์สีอ่อนกันแทนค่ะ
3. ตาตก (Down Turned Eyes)
รูปแบบดวงตาตก คือ รูปแบบตาที่บริเวณหางตาจะตกลง ดังนั้นการทาอายแชโดว์สำหรับดวงตารูปแบบนี้ ควรทาสีอ่อนเอาไว้ด้านในบริเวณหัวตา แล้วไล่เฉดสี ใช้อายแชโดว์สีเข้มทาเป็นวงออกมาด้านนอก เพื่อทำให้หางตาดูยกสูงขึ้น สำหรับการเขียนอายไลน์เนอร์ของสาวตาตก เขียนในแบบ Cat-Eyes จะเหมาะกับสาวตาตกที่สุด เพราะจะทำให้หางตาดูยกสูงขึ้นและมีเสน่ห์ขึ้นด้วย
4. ตาชี้ขึ้น (Up Turned Eyes)
เป็นรูปแบบดวงตาที่ตรงข้ามกับตาตก บริเวณหางตาจะยกขึ้นเป็นธรรมชาติ ซึ่งรูปแบบนี้ ทาอายแชโดว์ลุคสโมคกี้อายจะดูสวยมากๆ เลยทีเดียวล่ะ ควรทาอายแชโดว์สีเข้มๆ แล้วค่อยเขียนอายไลน์เนอร์กรีดบริเวณหางตา เพื่อปรับให้ดูสมส่วน ให้หางตาไม่ดูยกสูงเกินไปนั่นเอง
5. ตาลึก (Deep Set Eyes)
รูปแบบดวงตาแบบตาลึก จะตาโตลึกเข้าไปด้านในกะโหลกและมีโหนกคิ้วสูง ซึ่งสาวๆ ที่มีตารูปแบบนี้ ควรทาอายแชโดว์ให้มีสีอ่อนอยู่ด้านในบริเวณหัวตา แล้วเบลนให้สีเข้มขึ้นออกไปทางหางตา จากนั้นก็ใช้อายแชโดว์สีอ่อนทาบริเวณเปลือกตา สำหรับการทาอายไลน์เนอร์ให้เขียนชิดกับขอบตา จะทำให้ดวงตาออกมาสวย
6. ตาอัลมอนด์ (Almond Eyes)
ตาอัลมอนด์ คือรูปแบบดวงตาสุดเพอร์เฟ็กต์ จะมีรูปร่างเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ เมื่อมองเข้าไปในกระจก จะสามารถมองเห็นม่านตาของตัวเองขยายได้เต็ม ซึ่งเป็นดวงตาที่สมสัดส่วนมากที่สุด จึงเป็นตาในฝันของสาวๆ หลายคน การทาอายแชโดว์ให้เหมาะกับดวงตารูปแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก ทุกๆ วิธีการทาอายแชโดว์และการเขียนอายไลน์เนอร์ สามารถใช้กับดวงตาอัลมอนด์ได้หมดเลยล่ะค่ะ
7. ตาหลบใน (Hooded Eyes)
ตาหลบใน คือ การที่เรามีหนังตาเยอะจนบดบังชั้นตาไปหมดนั่นเองค่ะ สาวๆ คนไหนที่มีดวงตาหลบใน ก็ไม่ต้องกังวลไป เราสามารถทาอายแชโดว์ให้มีดวงตาชัดขึ้นได้ โดยการทาอายแชโดว์ที่เหมาะสำหรับดวงตาประเภทนี้คือ ทาอายแชโดว์ เบลนให้สูงขึ้นไป เพื่อทำให้เห็นชั้นตาชัดขึ้น อาจจะใช้สติ๊กเกอร์ที่แปะตา เพื่อเพิ่มชั้นตาให้ดูชัด ก่อนจะทาอายแชโดว์ก็ได้นะคะ และปัดมาสคาร่าเพิ่มเติมจะช่วยทำให้สาวๆ ตาหลบใน มีดวงตาที่สวยและมีเสน่ห์ได้เช่นกัน
8. ตาโปน (Protruding Eyes)
ตาโปน เป็นตาที่มีลักษณะกลม นูน หรือ ยื่นออกมาเล็กน้อย ซึ่งการทาอายแชโดว์ให้เหมาะสมกับรูปตาก็จะช่วยอำพรางตาให้ดูยื่นน้อยลงได้ โดยการทาอายแชโดว์ควรแบ่งเปลือกตาออกมาเป็น 3 ส่วนแล้วใช้โทนสีเข้มที่สุดไว้ตรงกลางเปลือกตา บริเวณส่วนที่ใกล้หัวตาทาด้วยอายแชโดว์สีอ่อนสุด และ บริเวณหางตาทาด้วยอายแชโดว์สีปานกลาง และตัดด้วยอายไลน์เนอร์เส้นหนา จะช่วยทำให้ดูตาโปนน้อยลง
9. ตาชั้นเดียว (Monolid Eyes)
ตาชั้นเดียวก็มีเสน่ห์ของสาวๆ เชื้อสายจีนอยู่แล้ว เพิ่มเสน่ห์ให้โดดเด่นอีกนิดด้วยการทาอายแชโดว์และกรีดอายไลน์เนอร์รับกับรูปแบบตาได้ไม่ยาก ด้วยการทาอายแชโดว์สีเข้มบริเวณแนวขนตา แล้วเกลี่ยไล่สีอ่อนไปยังบริเวณใต้คิ้ว และตัดชั้นเดียวด้วยอายไลน์เนอร์สีดำ ทำให้ตาดูโตขึ้นกัน
เห็นมั้ยคะว่าจะแต่งหน้า แต่งตาให้สวยทั้งที แต่งแบบมั่วๆ กันไม่ได้นะ เพราะวิธีการทาอายแชโดว์แต่ละวิธี ก็แตกต่างกันไป และเหมาะสมกับรูปแบบตาที่แตกต่างกัน ซึ่งหากอยากแต่งตาให้สวยงามเหมาะกับเรา ก็ต้องเลือกแต่งตาให้เหมาะกับรูปแบบดวงตาของเราเองด้วยนะจ๊ะ หลังจากได้ทริคดีๆ นี้ไป เราก็หวังว่าต่อไปสาวๆ จะทาตาได้สวยงาม ไม่ต้องกลัวเละ ไม่เป๊ะกันแล้วนะ