ใครๆ ก็อยากจะมีผิวสวยใส เพราะการมีผิวสวยนั้นทำให้ชีวิตเราดี นอกจากจะไม่ต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลา โบกรองพื้นหนาๆ แล้ว ยังสามารถเผยผิวใสออกจากบ้านได้อย่างสบายๆ แต่การที่เราจะผิวสวยได้นั้น ทุกอย่างต้องใช้เวลา ค่อยๆ หาวิธีรักษาอย่างถูกต้อง ไม่มีทางลัดไหนที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็วทันใจแน่นอน ก่อนอื่นเลยเราต้อง เริ่มจากการดูแลผิวตัวเองให้ถูกต้อง เพื่อให้ผิวของเราแข็งแรงกันนั่นเอง
แต่การจะมีผิวแข็งแรงได้ ไม่ใช่การประโคมสารพัดครีมบำรุงผิวลงไป แล้วผลลัพธ์จะออกมาดี บางครั้งเมื่อเรามีปัญหาผิว ไม่ว่าจะ “สิว อาการแพ้ ผิวมัน ผิวแห้ง ริ้วรอยต่างๆ” ที่เกิดขึ้นนั้น มันมีปัจจัยเสี่ยงเยอะแยะที่ทำให้เกิดสิ่งไม่พึงประสงค์เหล่านี้ ซึ่งการที่เพื่อนๆ พยายามแก้ไข ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงต่างๆ ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ผลที่ได้คือ “หน้าพังกว่าเดิม” อาจเป็นเพราะเรายิ่งเพิ่มสารบำรุงที่ผิวหน้า แต่ผิวหน้าของเรารับไม่ไหว
แล้วแบบนี้จะดีกว่ามั้ย หากเรามาทำความรู้จักกับผิวเราก่อน ว่าสิ่งที่ผิวเราต้องการคืออะไร?
ก่อนอื่นจะไปแก้ไข สิ่งแรกที่เราต้องทำ คือ การทำความรู้จักกับผิวหน้าของตัวเองให้ดีก่อน ว่าผิวของเราต้องการอะไรและขาดอะไรกันบ้าง ยิ่งหากเรามีผู้ให้คำแนะนำ ให้ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านผิว เราก็จะรู้จักผิวของตัวเราเอง และทำการรักษาได้ถูกทางมากขึ้น
ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาชวนเพื่อนๆ ที่กังวลใจเกี่ยวกับผิวหน้าของตัวเอง มาทำความรู้จักกับผิวตัวเองอย่างลึกซึ้งกับ “7D” MY BEST SKIN จากพรเกษมคลินิก ที่จะสามารถบ่งชี้ปัญหาของผิว และทางแก้ไขได้อย่างถูกต้อง จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
7D คืออะไร?
7D my best skin คือการวิเคราะห์ผิวอย่างถี่ถ้วนจากโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง และแนะนำการรักษาดูแลผิวให้สุขภาพดี ด้วยวิธีที่เหมาะสมกับผิวหน้า และที่แน่นอนเลยคือ เราจะได้รู้จักผิวตัวเองอย่างลึกซึ้งเลยว่า ปัญหาผิวเกิดจากอะไร วิธีแก้คืออะไร และอะไรที่ควรห้ามใช้ โดยที่แนวทาง 7D จะช่วยให้ผลลัพท์แบบยั่งยืนให้กับผิวของเราสวยยาวนาน
การวิเคราะห์ผิวแบบ 7D จะละเอียดกว่าทั่วไป ในการวิเคราะห์จะประกอบด้วยมิติทั้ง 7 ดังนี้
มิติที่ 1 DNA Factor : คือการวิเคราะห์จากกรรมพันธุ์
มิติที่ 2 Lifestyle Factor : คือการวิเคราะห์จากลักษณะการดำเนินชีวิต
มิติที่ 3 Skin Anatomy : คือการตรวจวิเคราะห์ผิวหนังอย่างละเอียด
มิติที่ 4 Skin Symptoms : คือการตรวจวิเคราะห์อาการผิดปกติของผิว
มิติที่ 5 Cure / Perfection : คือการแนะนำวิธีรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น
มิติที่ 6 Cure / Perfection : คือการแนะนำวิธีรักษาในระยะยาว
มิติที่ 7 Skin Asset : คือผลของความงามที่ยั่งยืน
ก่อนอื่นเราจะพาชมบรรยากาศในพรเกษมคลินิกกันก่อน
หลายๆ คนอาจกลัวการไปหาหมอ แต่บอกเลยว่า หากเกิดความรู้สึกกังวลใจมากๆ การไปหาหมอก็ถือว่าเป็นการแก้ไขที่มีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำได้ แล้วช่วยเราแก้ได้ดีกว่าการทดลองด้วยตัวเองนะคะ หากใครเคยมีเรื่องกังวลใจเกี่ยวกับสิว คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อคลินิกอย่าง “พรเกษม” แน่นอน เพราะเป็นคลินิกแห่งแรกๆ เลย ที่ช่วยรักษาเกี่ยวกับสิวและผิวหนัง เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2528 รวมทั้งสิ้นก็ 30 กว่าปีได้แล้ว แพทย์ทั้งหมดในพรเกษมล้วนจบมาจากแพทย์ทั่วไปเป็น เวลา 6 ปี พร้อมทั้งศึกษาวิชาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 3 ปีและได้รับวุฒิบัตร อนุมัติบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) จึงเชื่อมั่นได้ว่าเมื่อมารักษาที่ “พรเกษมคลินิก” จะได้รับการรักษาที่ถูกวิธีและปลอดภัย
ปัจจุบันพรเกษมก็มีหลากหลายสาขาให้เลือกไปได้ตามสะดวก แต่สาขาที่เราจะพาไปนั้นคือสาขา “สยามสแควร์” ซึ่งเพิ่งมีการรีโนเวตร้านใหม่ ตกแต่งออกมาสวยงามสุดๆ ทำให้เราลบความกลัวที่จะไปคลินิกออกไปหมดสิ้น
บรรยายได้ถูกตกแต่งใหม่ให้ดูสบายๆ ชิลๆ มีมุมนั่งต่างๆ ก่อนการรอเข้าพบแพทย์ ทำให้รู้สึกไม่เกร็ง
ทีนี้…ก็ถึงเวลาเข้าห้องตรวจกันแล้ว!
ภายในห้องตรวจก็จะมีเก้าอี้ตรวจตามปกติ แต่มีการตกแต่งแบบโมเดิร์นขึ้น เน้นความสะอาดและสบายตา
อันดับแรกคุณหมอก็จะเริ่มพูดคุยสอบถามถึงปัญหาผิวหน้าที่เรามีความกังวลเป็นพิเศษ รวมถึงวิเคราะห์ผิวส่วนอื่นๆ อีกด้วย
หลังจากเข้าตรวจผิวแล้วก็จะเริ่มทำการบีบสิวเราออกมาวิเคราะห์ว่าสิวเกิดจากอะไรด้วยเครื่องมือทางการแพทย์
หลังจากคุณหมอได้ทำการวิเคราะห์ 7D ก่อนการรักษา
สรุปได้ว่า เรามีสิวอักเสบ สิวอุดตัน และรอยดำที่เกิดจากการเป็นสิว
หลังจากนั้นก็จะเริ่มทำการสรุปว่าปัญหาผิวที่เกิดขึ้นมีต้นเหตุเกิดจากอะไร
สิวอักเสบ : เกิดจากฮอร์โมน
สิวอุดตัน : เกิดจากการใช้เครื่องสำอางทุกวันแล้วเกิดการอุดตันที่ผิว
รอยดำ : เกิดจากการบีบสิว
หลังจากนั้นคุณหมอก็แนะนำวิธีการรักษาให้ตรงจุด
สิวอักเสบ : ฉีดสิวที่สิวอักเสบเพื่อให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น แล้วทายาแต้มสิว และกินยาสำหรับคนเป็นสิวเพื่อให้สิวยุบเร็วขึ้น
สิวอุดตัน : ให้เปลี่ยนมาแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางที่ไม่อุดตันเช่น แป้งฝุ่น หรือแป้งพัฟไม่ผสมรองพื้น
รอยดำ : เรื่องรอยดำนั้นเป็นปัญหาที่รักษายากกว่าสิวทั่วไป คุณหมอเลยแนะนำให้เลเซอร์เฉพาะจุดที่เรียกว่า “E-lase” (Pulsed dye laser) เพื่อให้รอยจางลง
“E-lase” (Pulsed dye laser) คืออะไร?
คือการรักษารอยแดง-ดำที่เกิดจากสิว ที่เป็นปัญหากังวลใจของใครหลายๆ คน เพราะรอยจะค่อนข้างหายช้า เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 595 นาโนเมตร ผลการรักษาทำให้รอยแดงคล้ำจากสิวจะลดเลือนรวดเร็วขึ้น ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนังสากล
ด้วยความที่ไม่อยากมีรอยดำทิ้งไว้บนหน้านานๆ เราก็ขอทำเลเซอร์กันต่อ มาดูสเต็ปเลเซอร์กันต่อได้เลย
ระหว่างการทำเลเซอร์
ไม่เจ็บเลย แค่จะมีเสียงดังนิดๆ เราทำประมาน 20 จุด หลังจากนั้นหมอก็จะทำการฉีดสิวอักเสบให้เป็นอันเสร็จ
หลังการเลเซอร์
สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเลย จะเป็นแค่รอยแดงๆ ตามผิวหน้า แล้วสามวันก็จะหายไป
ข้อดีของการทำ “E-lase” (Pulsed dye laser) คือ
– รักษารอยสิวได้สะดวกรวดเร็ว ใช้เวลาทำแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น
-เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ ว่ารอยแดงจางลง
-ไม่ต้องฉีดยาชา แค่อาจจะรู้สึกมีไอเย็นกระทบผิวหน้า
– หลังการทำสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันและแต่งหน้าได้ตามปกติ
-สามารถทำได้ทุกสัปดาห์ รักษาต่อเนื่องรอยแดงก็จะหายได้รวดเร็ว
-กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ผิวหน้าจะหนาขึ้น
-สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเพราะผิวไม่ไวต่อแสง
-สุดท้ายเลย คือ คนที่ไม่มีรอยเยอะก็สามารถยิงเลเซอร์แบบกำหนดช็อตได้ตามต้องการ
สรุปตัวอย่าง 7D ของเรา
มิติที่ 1 DNA Factor (การวิเคราะห์จากกรรมพันธุ์) : ผิวบางทำให้เกิดรอยดำรอยแดงง่าย ผิวแพ้ง่ายและอุดตันง่าย สิวอักเสบเกิดจากฮอโมนต์ในร่างกาย
มิติที่ 2 Lifestyle Factor (การวิเคราะห์จากลักษณะการดำเนินชีวิต) : แต่งหน้าบ่อยทำให้เกิดสิวอุดตัน
มิติที่ 3 Skin Anatomy : (การตรวจวิเคราะห์ผิวหนังอย่างละเอียด) : มีสิวอุดตันตามผิวและผดผื่นเม็ดเล็กๆ รอยดำรอยแดง
มิติที่ 4 Skin Symptoms : (การตรวจวิเคราะห์อาการผิดปกติของผิว) : มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่ที่กำลังอักเสบหนัก
มิติที่ 5 Cure / Perfection : (การแนะนำวิธีรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น) : ฉีดสิวอักเสบให้สิวอักเสบยุบ และทำเลเซอร์ลดรอยดำรอยแดง
มิติที่ 6 Cure / Perfection : (การแนะนำวิธีรักษาในระยะยาว) : งดใช้เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวอุดตัน เน้นใช้แป้งฝุ่น หรือแป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นที่ผิวหน้า
มิติที่ 7 Skin Asset : ผลลัพธ์ที่เห็นได้จากการรักษา
หลังจากฉีดสิวและทำเลเซอร์รอยดำเรียบร้อยแล้วเราก็จะมารอรับยาที่เคาเตอร์
รับยาเสร็จแล้ว! ตรวจดูในถุง คุณหมอก็จะให้ยาที่ช่วยเรื่องผิวหน้าตามปัญหาต่างๆ
และนี่ก็เป็นรีวิวเล็กๆ น้อยๆ ของเรา หลังจากไปลองใช้บริการมาค่ะ หากเพื่อนที่สนใจไปรับคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญบ้างล่ะก็ ลองแวะไปดูที่สาขาที่สะดวกได้เลยนะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องจำไว้ว่า รักษาแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามกันด้วยนะคะ ทำตามคำแนะนำของคุณหมอและรับประทานยา แต้มยา ให้ครบตามคำแนะนำ รับรองว่าผิวหน้าดีขึ้นแน่นอน หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่สนใจนะ 🙂
ก่อนจากกันไป มาดูคลิปโฆษณา จากพรเกษมคลินิกกันที่ด้านล่างนี้ได้เลย แล้วจะรู้ว่าทำไม ผู้หญิงเรา ถึงต้องสวยไม่ซ้ำรอยใคร
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook page , LINE@ หรือโทร 02-252-1317
Copyright © Jeab.com