แน่นอนว่าการทำเล็บ เข้าสปา เป็นเรื่องที่ผู้หญิงนั้นชอบกันทุกคน และที่สำคัญ คือเรามักจะมองหาแบบเล็บที่สวย มีสไตล์ และอินเทรนด์ เพื่อให้เราดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร การทำสปาเองก็เช่นเดียวกัน ผู้หญิงเรามองหาสปาที่สร้างความผ่อนคลายที่ต้องมาพร้อมกับความน่าเชื่อถือขอผลิตภัณฑ์ที่ดี มีสูตรสปาต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของเราให้เลือกมากมาย เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบำรุงที่ถูกต้องและดีกับเราจริงๆ และแน่นอนว่า ทั้งหมดทั้งปวง ต้องมาในราคาที่ยุติธรรม สามารถจับต้องได้

Nail Villa and Spa Cottage (เนลวิลล่าแอนด์สปาคอทเท็จ) เป็นร้านทำเล็บและสปาที่ถูกบอกต่อกันมาปากต่อปาก ถึงบริการที่แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการของคนที่มีสไตล์ ด้วยเจ้าของร้าน คุณออน อรนาฎ นชะพงษ์ มีความหลงใหลในการทำเล็บ และทำสปาเป็นการส่วนตัว เธอจึงคัดสรรแต่สิ่งที่ดีๆ มีคุณภาพมาบริการให้กับผู้หญิงทุกคน ที่สำคัญเล็บของเราหรือผิวของเราจะเป็นอย่างไร จะดูบริการว่าดีหรือไม่ เราก็ต้องดูที่เจ้าของร้านด้วยสิคะ ทีมงาน Jeab จึงอยากจะลองแวะไปใช้บริการสักครั้ง เพื่อพิสูจน์ร้านทำเล็บและสปาแห่งนี้ และเมื่อทีมงานได้เห็นคุณออน ก็ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะได้รับบริการและเต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแน่นอน เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่สวย ดูดีมากๆ เล็บของเธอดูอินเทรนด์ ผิวก็สวยเรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด เจอคุณออนแล้ว ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมากๆ และแน่นอนว่า นั่นก็สร้างความมั่นใจให้กับเราได้ดีทีเดียวว่าจะได้รับการดูแลและบริการที่ดีจากร้านของเธอเช่นเดียวกัน

Nail Villa and Spa Cottage (เนลวิลล่าแอนด์สปาคอทเท็จ) เป็นร้านทำเล็บครบวงจร เปิดมานานกว่า 5 ปี มีบริการทำเล็บในทุกรูปแบบ และบริการสปาทั้งสำหรับผิวหน้าและผิวกาย บอกเลยว่า ถ้าได้มาลองแล้วคุณจะติดใจ รักบรรยากาศและการนวดจากผู้เชี่ยวชาญของแท้ ทั้งน้ำหนักมือ และวิธีการนวด บอกได้เลยว่ามากด้วยประสบการณ์ จนต้องขอใช้คำว่าร้านนี้เขา “นวดเป็น” จริงๆ

ก่อนจะหลงประเด็นไปไกล ตามเรามาดูสิ่งแรกที่ประทับใจสุดๆ จากการเข้ามาใช้บริการกันก่อน และอย่าลืมว่าเรามีทั้ง ภาพและวีดีโอมาฝากกันด้วยนะจ๊ะ

ความประทับใจต่อที่ 1 คือ ที่ร้านนี้มีลายเล็บให้เลือกเยอะมาก แต่ละลายก็อินเทรนด์ตามกระแสแฟชั่นสุดๆ ทั้งลายหินอ่อน เล็บกระจก หรืองานฟรอยด์ เห็นแล้วละลานตา บางทีก็เลือกไม่ได้ แต่โชคดีที่มีพนักงานคอยให้คำแนะนำอยู่ตลอด และยังช่วยครีเอทลายเก๋ๆ ให้กับลูกค้าเพิ่มได้อีกด้วย และที่สำคัญคือเพ้นท์ลายต่างๆ ออกมาได้เป๊ะปังมาก สวยเว่อร์จริงๆ

ความประทับใจต่อที่ 2 คือ ที่นี่มีบริการสครับ นวดตัวและนวดสูตรพิเศษที่ผสมให้เข้ากับสภาพผิวของแต่ละคน ที่สำคัญคือนวดแล้วสบายตัวมากกกกกกก (กอไก่ล้านตัว) แอบส่องเห็นบริการนวดอื่นๆ ที่ใช้แบรนด์ดัง การันตีเรื่องคุณภาพอย่าง “Clarins” ในการนวดด้วยนะ อดตกใจไม่ได้ที่ใช้แบรนด์ดังแบบนี้เลยทีเดียว พนักงานเขาว่าเป็นเพราะคุณออน เจ้าของร้าน เปิดร้านเพราะความชอบส่วนตัวในเรื่องนี้ เลยค่อนข้างจะใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพเป็นพิเศษ เลือกใช้ของดี เสมือนตัวเองเป็นลูกค้าและอยากได้รับสิ่งที่ดีที่สุดนั่นเองล่ะ ขอแอบกระซิบเบาๆ ยิ่งตอนทีมงานเห็นคุณออนตัวจริง บอกเลยว่า “เชื่อ” สิ่งที่พนักงานบอกสุดๆ เพราะเธอดูดี แบบที่เห็นปุ๊ปรู้ปั๊ปว่าคนนี้ ดูแลตัวเองเป็นจริงๆ

บรรยากาศของร้าน

ภายนอกร้านอาจดูธรรมดา เรียบง่าย ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ ในแนวนี้ แต่ภายในน่ารักดีนะ ดูเหมือนบ้าน ให้ความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง และไม่โอเว่อร์จนเราไม่กล้าเข้า เชื่อว่าต้องมีเพื่อนๆ หลายคนพอเห็นร้านที่แต่งสวยหรูสุดๆ ก็คงไม่กล้าเข้าเพราะกลัวราคาที่สูงโดดใช่มั้ย แต่ร้านนี้ไม่เป็นอย่างนั้น บรรยากาศกับการตกแต่งภายดูอบอุ่น แถมราคากันเป็นกันเอง เราสามารถจับต้องได้

บริการของร้าน

บริการของร้าน แบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนทำเล็บ และ โซนสปา

•โซนทำเล็บ

บริการเด่นๆ เลย ก็คือ การทำสปามือเท้า เพ้นท์ลายเล็บด้วยเทคนิคใหม่ๆ ตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ ต่อเล็บเจล ฯลฯ และที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือ Nail Villa Signature Treatment คือการทำสปาเล็บมือเล็บเท้าที่ผสมผสานสมุนไพรไทยเข้าไปอย่างลงตัวพร้อมเก้าอี้นวดสปาเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายอีกด้วย

•โซนสปา

ที่เด็ดๆ คือตัว Signature Body Spa Treatment สูตรพิเศษเฉพาะของทางร้านเป็นการเลือก mix ส่วนผสมของสครับและoil เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองโดยเฉพาะ

มาดูรีวิวแต่ละโซนกันต่อเลย…

โซนทำเล็บ

•Nail Villa Signature Treatment

บริการนี้ เป็นการทำสปาเล็บ โดยผสมผสานกันระหว่างสมุนไพรไทย ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบบลงตัว และค่อนข้างออแกนิคมาก อ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายก็สามารถทำได้ด้วย มีเสิร์ฟชาร้อนๆ ให้ดื่มระหว่างที่นั่งทำ รวมทั้งเบาะนั่งยังเป็นเก้าอี้นวดด้วยล่ะ ช่วยผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย ขอบอกว่าฟินมากกกกกก

ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้ทำสปาเล็บแบบจริงๆ จังๆ ปกติที่เราชอบทำแค่เล็บเจลอย่างเดียว พอจะได้เริ่มต้นทำสปาเล็บแบบจัดเต็ม ก็อดตื่นเต้นเล็กๆ ไม่ได้

ขั้นตอนแรกทางร้านจะให้เราให้แช่มือและเท้าด้วยน้ำอุ่นที่ใส่เกลือสมุนไพรเรียกว่า “Herbal soak” ทำจากสมุนไพรหอมๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กำจัดแบคทีเรียและกลิ่นอับ ทำไปกลิ่นหอมๆ ก็ลอยฟุ้ง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก หลังจากนั้นจะเข้าสู่ Step การตัดหนังที่ปกติเวลาทำ ส่วนใหญ่สาวๆ จะบ่นกันว่าเจ็บ หรือกลัวว่าอุปกรณ์จะไม่สะอาด บางคนเลยเลือกที่จะไม่ตัดหนังออก แต่บอกเลย ที่นี่ตัดหนังไม่เจ็บนะ เพราะพนักงานจะใช้ครีมทาให้หนังนุ่มก่อนแล้วทำการตัดอย่างเบามือสุดๆ แถมอุปกรณ์ทุกชิ้นก็มีการอบฆ่าเชื้อ และฉีดแอลกอฮอล์ก่อนและหลังใช้ทุกครั้ง รวมไปถึงการดูแลความสะอาดที่มือพนักงานเองอีกด้วย

ขั้นตอนต่อมาเป็น Step ที่เราชอบสุดๆ คือ รับมือและเท้า ทางร้านจะใช้ Lemongrass scrub มาสครับเบาๆ ไม่บาดผิว ช่วยขจัดขี้ไคลออกไปได้ดี แถมยังขัดมาถึงแขนและขาด้วยเพื่อให้สีผิวสม่ำเสมอกัน

จากนั้นต่อมาคือการใช้ผ้าร้อนเพื่อเปิดรูขุมขนผิว แล้วนวดด้วยครีมว่านหางจระเข้ เพื่อให้ความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวชั้นในและตามด้วยการอบมือ ด้วยการใส่ถุงมือสมุนไพรกลิ่นหอมๆ อีกประมาน 10-15 นาที ตอนที่ใส่ถุงมือ คือดี ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ แถมยังอุ่นๆ หอมๆ อีกด้วย ฟินสุด

ทำเสร็จแล้วรู้สึกสบายผ่อนคลาย เหมือนได้บำรุงเข้าไปในเล็บจริงๆ ไม่ได้ทำแค่เล็บมือและเล็บเท้าภายนอกเท่านั้น บริการนี้เป็นบริการที่เหมาะกับสาวๆ ที่ต้องการดูแลและบำรุงเล็บจริงๆ อยากโชว์เล็บสวยๆ หรือ ใครที่เล็บเสีย ดูไม่สวย แต่จะต้องมีเวลาในการทำสักหน่อยนะคะ ถ้ารีบมารีบไป บริการนี้อาจไม่เหมาะ เพราะใช้เวลาพอสมควร ส่วนตัวเราเองถือว่าเป็นครั้งแรกในการทำสปาเล็บที่ประทับใจสุดๆ

•ต่อเล็บเจล

ส่วนใหญ่การต่อเล็บที่เราเห็นจะเป็นการต่อเล็บแบบอะครีลิค แต่การต่อเล็บเจล คือ นวัตกรรมใหม่ของการต่อเล็บ เป็นแบบ Soak-off gel สามารถต่อเล็บ เติมโคนเล็บได้เหมือนอะครีลิค แต่ว่าให้ความรู้สึกเบากว่า ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เวลาจะถอดออกก็แค่ห่อเล็บด้วยฟรอยด์ ถอดออกได้ปกติ ไม่ต้องตะไบออกเหมือน Hard gel ด้วยค่ะ ง่ายกว่ากันเยอะเลยค่ะ สำหรับทรงเล็บที่เราเลือกต่อที่นี่ คือ แบบ “อัลมอนต์” ที่กำลังฮิตในญี่ปุ่นสุดๆ ขออินเทรนด์กันหน่อย

เวลาต่อเล็บนี่ก็ไม่มีกลิ่นรบกวนใจเลยนะ ใครเคยต่อเล็บอะครีลิคมา อาจจะรู้ดีว่ากลิ่นจะเหม็นมาก แต่สำหรับการต่อเล็บแบบเจล คือไม่มีกลิ่นเลย แถมยังให้ความรู้สึกว่าเล็บเบา ไม่หนัก ดูเนียนเหมือนเล็บจริง เวลาถอดออกก็ง่าย ทำให้หน้าเล็บไม่เสียด้วยล่ะ

มาดูกัน พอต่อออกมาเสร็จแล้วจะเป็นยังไง เปรียบเทียบจากเล็บก่อนต่อและหลังต่อกันนะคะ จะเห็นได้ว่าดูเหมือนจริงมากๆ ทำเสร็จแล้วรู้สึกเบาสบายด้วยล่ะ เล็บไม่หนักเลย

•ทำเล็บเจล

ที่นี่มีสีเล็บเจลให้เลือกละลานตามากจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ยาทาเล็บก็ใช้ของดีมีคุณภาพ ด้วยความที่มันเยอะมากๆ ทางร้านเลยให้เราเลือกสีที่ต้องการ จากชาร์ทสี เพื่อให้เลือกได้ง่าย รวมทั้งมีลวดลายอินเทรนด์ตามแฟชั่นเล็บๆ มาให้เลือกมากมายด้วยเช่นกัน

เลือกไปเลือกมา สุดท้ายเราเลือกเป็นสีโทน ขาว-เทา-ดำ ส่วนลายที่จะทำ เราให้พนักงานช่วยครีเอทตามเทรนด์ตอนนี้ ได้ออกมาเป็นแบบ mix หลายลายเข้าด้วยกัน มีลาย mirror สีกระจก, color drop fade mirror และ ลาย marble ออกมาเหมือนหินอ่อนมากๆ มิกซ์รวมกันออกมาสวยมีสไตล์ดีทีเดียว

ก่อนทาสีเล็บเจล ของที่นี่จะมีบริการ ทารองพื้นเล็บชนิดพิเศษ ที่เป็น signature ของทางร้าน เพื่อดูแลหน้าเล็บของลูกค้าไม่ให้บางลง เวลาแกะเล็บ ครั้งต่อไปจะถอดออกมาง่ายมากๆ ไม่ต้องตะไบให้หน้าเล็บเสียหายเลยคะ พนักงานทำเล็บให้อย่างประณีต ออกมาสวยเนี๊ยบ เราชอบมาก!

เมื่อเพ้นท์เล็บเจลเสร็จ ก็ต้องอบเล็บให้แห้ง เครื่องอบเล็บของที่นี่ใช้เครื่องอบของ O.P.I นะคะ ไม่ต้องกังวลเรื่องเป็นมะเร็งผิวหนังอีกต่อไป เพราะเครื่องผ่านการรับรองของต่างประเทศและได้มาตรฐาน

สำหรับเล็บเท้า เราเลือกสีและลายให้แมทซ์เข้ากับเล็บมือ ใช้หลายเทคนิคมิกซ์เข้าด้วยกัน ทำออกมาสวย เป๊ะมาก

โซนทำสปา

•นวดตัว

สิ่งแรกที่ทำให้เราตื่นเต้นมากๆ คือในส่วนของ Scrub Bar ที่เราสามารถเลือกผสมสครับเองได้ หรือจะให้ ธtherapist ออกแบบให้เพื่อให้เหมาะกับผิวของตัวเองก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรืออยากได้สครับสำหรับสูตรไหนๆ ก็ผสมเองได้หมด เรียกว่าเป็น customized สครับของตัวเองเลย

หลังจากเลือกสครับที่เหมาะกับตัวเองได้แล้ว พนักงานจะให้เราเข้าไปรอในห้องสปา และเปลี่ยนทำความสะอาดร่างกาย เปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยเป็นชุดที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ภายในห้องสปาชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย บรรยากาศในห้องหอมไปด้วยกลิ่นอโรม่า ดูสะอาดและมิดชิด มีอุณภูมิเหมาะสม

พอเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นเขียง…เอ๊ย การทำสปาผิวของจริง

เริ่มต้นจากการการนวดผ่อนคลายเบาๆ ก่อนจนมาถึงขั้นตอนการสครับ ที่เราปลื้มสุดๆ คงจะหนีไม่พ้น การสครับด้วยน้ำนมแท้ 100% ที่ทางร้านอุ่นได้อุณภูมิที่พอเหมาะกับผิวทำให้เวลาสครับแล้วรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื่น แถมยังมีกลิ่นหอมติดตัวด้วยล่ะ งานนี้เรียกว่าฟิน เพลิน จนเกือบหลับแน่ะ

หลังจากสครับเสร็จก็มีการอบตัวเพื่อให้สรรพคุณของสครับทำงานได้เต็มที่ จากนั้นก็ล้างตัวให้สะอาด ซึ่งถ้าใครไม่นวดตัวต่อ เขาก็ทาโลชั่นพร้อมนวดครีมให้ด้วยท่าพิเศษตามแบบฉบับร้าน เสร็จแล้วเราก็เลือกบริการนวดน้ำมันสูตรพิเศษของทางร้านต่อ หลังจากนวดตัวเสร็จ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หายเมื่อยสุดๆ และที่ปลื้มไม่น้อยกว่ากันเลย คือ นอกจากได้คลายเมื่อยแล้ว ยังได้บำรุงผิวไปในตัว ซึ่งหลังจากลองใช้บริการทั้งสองแบบแล้ว จากวันที่ทดลอง จนถึงวันนี้ (สองสัปดาห์แล้ว) ผิวยังดูใสและดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนรู้สึกได้

•นวดหน้า

ความพิเศษของการนวดหน้าที่นี่ คือ มีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ชั้นนำ ที่มีผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์แต่ละสูตรมาแล้วว่าเหมาะกับผิวประเภทไหน

หลังจากเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเราได้แล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มนวดกันแล้ว ซึ่งพนักงานที่นี่ นวดได้เบามือมากทีเดียวนะ หลังจากนวดเสร็จ สิ่งที่รู้สึกได้ทันที คือ ความผ่อนคลายของผิว และผิวหน้าก็ดูกระจ่างใสขึ้นด้วย

ถือว่าเป็นร้านที่มาที่เดียว ทำได้ครบจริงๆ ทั้งสปาเล็บ ทำเล็บสวยๆ และ ไหนจะสปาผิวกันอีก แนะนำกันเลยค่ะ ดีงาม ก่อนออกจากร้าน เราได้เจอคุณออน อรนาฎ นชะพงษ์ เจ้าของร้าน “Nail Villa and Spa Cottage (เนลวิลล่าแอนด์สปาคอทเท็จ)” กันอีกครั้ง ครั้งนี้เลยขอสัมภาษณ์ สอบถามโน่นนี่ตามประสา Editor มาฝากกันด้วย ยิ่งได้รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมคุณออนถึงได้เปิดร้านทำเล็บและสปาของตัวเอง ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตั้งแต่มาถึงที่ร้าน พนักงานของร้านนี้ต้อนรับและดูแลดีซะจนเราอดประทับใจตั้งแต่แรกไม่ได้ ทั้งหมดทั้งมวลเกิดมาจากทัศนคติในการบริการของคุณออน เจ้าของร้านนี่เอง ว่าแล้วเรามาดูบทสัมภาษณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ Jeab.com นำมาฝากกันหน่อยดีกว่า

“การทำร้าน เกิดจากความชอบส่วนตัว ด้วยความที่ชอบทำเล็บตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว เลยรู้สึกว่าลองมาแล้วหลายร้าน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเจอทุกร้านที่ถูกใจ ก็เลยคิดว่ามาเปิดร้านทำเล็บดีกว่า ให้เป็นแบบฉบับที่ตัวเองชอบ แล้วก็อยากดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด เหมือนเวลาที่ตัวเองเคยไปที่อื่นแล้วคาดหวัง อยากได้การดูแลที่ดี ก็เลยได้มาเปิดร้านนี้ เน้นการให้บริการที่ใส่ใจมี service mind รักในการให้บริการจริงๆ และการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีแต่แบรนด์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐาน ได้คุณภาพ ”

“จุดเด่นคือเราใช้ใจ และ ใส่ใจในการดูแลบริการลูกค้า คัดสรรผลิตภัณฑ์แบรนด์ชั้นนำที่ได้มาตราฐาน ได้คุณภาพ รวมถึงตัวพนักงานเอง เราก็เลือกพนักงานที่มี service mind รักในการให้บริการจริงๆ ต่อให้ใช้ของดีแต่เลือกพนักงานที่ไม่มีใจบริการ ก็ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับการบริการอย่างเต็มที่ และสุดท้าย คือ ขั้นตอนการดูแลแบบพิเศษ ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึก special ว่าเราดูแลลูกค้าอย่างใส่ใจจริงๆ ให้ลูกค้าอยากกลับมาอีกครั้ง”

“Signature ของร้าน อันดับแรกเลยคือ ทาสีเจล เป็นสิ่งที่ลูกค้าทุกคนมาแล้วชอบที่จะทำ ทาแล้วแห้งเลย แต่ลูกค้าบางคนกลัวเล็บบาง เพราะมีการตะไบเล็บเวลาถอดเจลออก ซึ่งทางร้านของเราก็จะมีบริการพิเศษที่ช่วยดูแลหน้าเล็บของสาวๆ ให้ทาสีเจลได้ต่อไป นานๆ โดยที่เล็บยังคงแข็งแรงอยู่ อีกตัวที่อยากแนะนำมากๆ คือตัวสครับของเรา ตัวสครับของเราเป็นสครับที่ผสมใหม่แต่ละครั้ง ส่วนผสมไม่เหมือนกันเลยในแต่ละครั้ง เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของผิวลูกค้าแต่ละคนโดยเฉพาะ โดยการวิเคราะห์โจทย์ผิวของลูกค้า แล้วผสมส่วนผสมแบบสดๆ ให้เลย ส่วนใหญ่ลูกค้าลองแล้วจะติดใจตัวนี้ ต่อด้วยการนวดตัวเพื่อความผ่อนคลายด้วยท่านวดพิเศษของทางร้านเอง”

–คุณออน อรนาฎ นชะพงษ์ เจ้าของร้าน “Nail Villa and Spa Cottage (เนลวิลล่าแอนด์สปาคอทเท็จ)”

แม้ว่าร้านนี้จะยังมีแค่สาขาเดียว ทำให้หลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่ Jeab.com ขอแนะนำกันเลยค่ะ เป็นร้านที่บริการดีมาก และ คุณภาพก็ออกมาเป๊ะ แบบว่าเสียเงินแล้ว ไม่รู้สึกเฟล ประทับใจสุดๆ เพื่อนๆ ลองหาโอกาสแวะไปใช้บริการกันดูนะคะ

เห็นความประทับใจเรากันแล้ว อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยว่าร้านนี้ตั้งอยู่ที่ไหน ตามเรามาดูรีวิวและทำความรู้จักร้านนี้กันได้เลย

สถานที่ตั้งและการเดินทาง

ร้านนี้อยู่บริเวณย่านเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา ถ้าใครนั่งแท็กซี่มาก็จอดหน้าร้านได้เลยนะ หรือ หากสาวๆ คนไหนขับรถมา ก็ไม่ต้องกลัวจะไม่มีที่จอดนะคะ ที่นี่มีที่จอดอยู่หน้าร้านเลยล่ะ

รายละเอียดของร้าน “Nail Villa and Spa Cottage (เนลวิลล่าแอนด์สปาคอทเท็จ)”

ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 369/1-3 ซอยจำเนียรเสริม
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.00น.
โทรศัพท์:090-541-4429, 087-327-1305และ อีเมล: nail_villa@hotmail.com
Facebook : http://www.facebook.com/nailvillaandspacottage

Copyright © Jeab.com