หากใครติดตามบล็อกเกอร์โซนฝรั่งหรือโซนเอเชีย คงจะเห็นผ่านตากันมาบ้าง สำหรับกระแสยอดฮิตอย่างการใช้ color-correcting ในการปรับโทนผิวให้สวยกระจ่างใส ไม่หมอง ด้วยทฤษฎีการใช้สีคู่ตรงข้าม ในการปรับสมดุลของโทนสีผิว อาจจะดูยากในการใช้อยู่บ้าง แต่จริงๆ แล้วไม่ยากอย่างที่คิดเลยนะ เพียงแค่เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ผิวหน้าของเราเหมาะกับสีอะไร” เท่านั้นเอง

เพื่อนๆ ลองมาสังเกตที่ใบหน้าของตัวเองกันดูซิ จะพบว่าจริงๆ แล้วเรายังมีจุดที่สามารถใช้สีในการทำให้ผิวสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นได้อยู่หลายจุดเลยนะ เช่น

• ผิวที่ขาวเกินไปจนซีด
• ผิวที่มีรอยแดงอักเสบจากการเป็นสิว
• ผิวที่เหลืองจนดูสุขภาพไม่ดี ไม่อมชมพู
• ผิวที่ขาวไม่สม่ำเสมอ
• ผิวที่หมองคล้ำ

หากเพื่อนๆ มีผิวลักษณะนี้อยู่ ก็สามารถที่จะใช้ ทฤษฎีการใช้สีคู่ตรงข้ามหรือที่เรียกว่าการใช้ color-correcting นี้แหละ ในการปรับสมดุลให้กับผิวของเรากันได้

เอาล่ะ เกริ่นไปสักเล็กน้อยแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าเนอะ สำหรับวันนี้เรามีไอเท็มในการปรับโทนสีผิวมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันชัดๆ นั่นก็คือ Etude House “FIX & FIX TONE UP PRIMER” เป็นไพรเมอร์ที่มีเนื้อที่เบาบาง ช่วยให้รองพื้นในชั้นต่อไปติดทน และเผยสีรองพื้นที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น

คำเคลม

FIX & FIX TONE UP PRIMER SPF34/PA++ (สีเขียว สีม่วง และสีชมพู)
1. ปรับโทนผิว
The color-correcting primer จะช่วยปรับโทนสีผิวเดิม เพื่อให้ผลการแต่งหน้าที่ดีที่สุดด้วยทฤษฎีสีตรงข้าม อีกทั้งยังช่วยเน้นโทนสีเดิมของคุชชั่นและเมคอัพให้ชัดขึ้นอีกด้วย
2. เสริมการติดทนของรองพื้นติดกับผิวอย่างแนบสนิท ปรับสีผิว และช่วยให้เมคอัพดูเฟรชตลอดวัน
3. ปกป้องผิวจากสภาวะแวดล้อมภายนอก ส่วนผสมของเกราะป้องกัน 3 ชั้น ที่ช่วยปกป้องผิวจากฝุ่นละอองจากภายนอก

FIX & FIX PORE PRIMER SPF34/PA++ (แบบไม่มีสี)
1. ไพรเมอร์ชนิดเจล สำหรับรูขุมขนด้วยส่วนผสมของเจล จะทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน และแน่นขึ้น อีกทั้งยังให้ผิวดูแมท นุ่มทั่วทั้งผิวหน้า
2. โทนสีผิวธรรมชาติสีผิวจะดูเป็นธรรมชาติ เมื่อเกลี่ยลงบนผิว
3. อุดมไปด้วยมะรุม + ใบชาเขียว + น้ำมันเมล็ดชาเขียวทำความสะอาดผิว ดูแลปัญหาผิว และทำให้ผิวแข็งแรงด้วยอาหารที่อุดมสมบูรณ์
ก่อนที่จะดูรีวิว เราจะมาแนะนำการเลือกสีที่ถูกต้องเพื่อความเป๊ะของใบหน้ากัน เพราะหากใช้ผิดสีอาจทำให้ดูไม่เข้ากับผิวหน้าได้ และจากที่จะเป๊ะ จะกลายเป็นเละกันได้นะ

FIX & FIX TONE UP PRIMER SPF34/PA++ (MINT)

สีเขียวเป็นสีคู่ตรงข้ามกับสีแดง สีเขียวเหมาะกับคนที่มีปัญหารอยแดงที่ผิว อาจเกิดจากการอักเสบของผิว หรือหน้าที่มีแดงจนเกินไป ต้องการปรับสมดุลให้ผิวอยู่ที่สีกลางนั่นเอง

FIX & FIX TONE UP PRIMER SPF34/PA++ (LAVENDER)

สีม่วงเป็นสีคู่ตรงข้ามกับเหลือง เหมาะกับคนที่ผิวหน้าเหลือง ซีด หมอง แลดูไม่สดใสนี้เอง สีม่วงจะเข้าไปช่วยให้ผิวกระจ่างใสยาวนานมากยิ่งขึ้น

FIX & FIX TONE UP PRIMER SPF34/PA++ (ROSE)

สีชมพูเหมาะกับคนที่ผิวขาวซีด หรือผิวขาวที่ไม่สม่ำเสมอ สีชมพูแนะนำให้ใช้กับคนที่ขาวเท่านั้น เพราะหากผิวเข้มจะทำให้ผิวเทาได้นะ สำหรับคนที่ผิวขาวซีดสีชมพูจะเข้าไปช่วยให้ผิวดูสดใสเป็นธรรมชาติ

FIX & FIX PORE PRIMER SPF34/PA++ (แบบไม่มีสี)

สำหรับตัวสุดท้ายเป็น PORE PRIMER แบบไม่มีสีใดๆ สำหรับคนที่สีผิวธรรมชาติไม่มีจุดด่างพร่อยอะไรมาก แต่ไพรเมอร์ตัวนี้จะเข้าไปช่วยอำพรางรูขุมขน ให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

ทีนี้ เรามาทดสอบสีและเนื้อผลิตภัณฑ์ของแต่ละสีกันเลยดีกว่า

TONE UP PRIMER สีเขียว

TONE UP PRIMER สีม่วง

TONE UP PRIMER สีชมพู

TONE UP PRIMER 3 สี

เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบาซึมเข้าสู่ผิวได้โดยง่าย ไม่ทำให้เกิดการวอก แต่ก็ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป มีความชุ่มชื้นนิดๆ ทำให้เกลี่ยง่าย คล้ายเจลซึมเข้าสู่ผิว เคลือบผิวไว้บางๆ หลังจากนั้นจะได้ลุคแมทท์ ไม่มันเลย คนหน้ามันสามารถใช้ได้
PORE PRIMER (แบบไม่มีสี)

ตัวสุดท้ายเป็นเนื้อคล้ายซิลิโคนบางๆ นุ่มๆ เราชอบเนื้อตัวนี้มาก เพราะทาแล้วรู้สึกสมูทไปกับผิวเลย หลังจากนั้นรู้สึกว่าผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังช่วยควมคุมความมันอีกด้วย

การใช้งาน

เปิดฝาขวดออก บีบเนื้อผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ ไม่มากจนเกินไป ทาทั่วหน้าก่อนการลงรองพื้น

หลังจากลองสีกันมาแล้ว เราคิดว่าสีที่เหมาะกับเราคือสีชมพู เพราะเป็นคนผิวขาวซีดไม่อมชมพู สีผิวไม่เสมอกัน ทีนี้เรามาลองทาผลิตภัณฑ์ที่ผิวหน้ากันเลยดีกว่า

1. ผิวหน้าก่อนการลงไพรเมอร์ จะขาวซีดออกเหลืง มีกระเล็กน้อย สีผิวไม่เสมอกัน
2. ทา PORE PRIMER (แบบไม่มีสี) ทำให้ผิวดูเรียบเนียน สมูทยิ่งขึ้น รูขุมขนดูจางลง และผิวหน้าดูแมทท์ขึ้น ควบคุมความมันได้ดี ทำให้หน้ามันน้อยลง
3. ทา TONE UP PRIMER สีชมพู ลงที่ผิวหน้าเล็กน้อย ช่วยปรับให้สีผิวดูขาวใสแบบอมชมพูขึ้น รอยที่ไม่เรียบเนียนดูจางลง เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่ทำให้ผิวหน้าวอก (เลือกใช้เพียงเล็กน้อยและถูกสี)
4. ทารองพื้น เนื้อผลิตภัณฑ์ช่วยให้เกลี่ยรองพื้นง่ายขึ้น ช่วยให้ใช้รองพื้นในปริมาณน้อยลง ทำให้ประหยัดรองพื้นขึ้น และที่สำคัญเลยคือช่วยให้รองพื้นติดหน้า ติดทนนานมากขึ้น

ผลการรีวิว

เนื้อผลิตภัณฑ์ ★★★★★

เนื้อตัว TONE UP PRIMER เบาบางกำลังดี ทำให้ผิวหน้าไม่วอก เพราะเกลี่ยแล้วกลืนกับผิวได้ดี เนื้อออกเจลๆ ทำให้ไม่หนักหน้า ให้ความชุ่มชื่นเล็กน้อย แต่ควบคุมความมันแบบพอเหมาะ ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น เนียนเข้ากับผิวได้ดี

เนื้อตัว PORE PRIMER ชอบเนื้อตัวนี้มากๆ คล้ายซิลิโคนนุ่มๆ ลื่นๆ เคลือผิวหน้าบางๆ พลางรูขุมขนแล้วเรียบเนียนไปกับผิวเลย และควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม

แพ็กเกจ ★★★★★

มาในหลอดยาว เรียวเล็ก พกพาง่าย หุ้มพลาสติกอย่างดี หัวหลอดเรียวเล็กทำให้บีบเนื้อออกมาได้พอดี ไม่เยอะจนหกเลอะเทอะ ที่สำคัญสีสันของแพคเกจน่ารักเอาใจไปเลยเต็มๆ

กลิ่น ★★★★

มีกลิ่นน้ำหอมนิดๆ แนว Etude House แต่ไม่แรงเหมือนผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ส่วนตัวเราโอเคกับกลิ่นนี้นะ

สรุปรีวิวหลังการใช้

ผลิตภัณฑ์ตัว TONEUP PRIMERช่วยในการปรับโทนสีได้ดี ไม่ทำให้หน้าวอก เพราะเนื้อค่อนข้างบางเบาแต่ปรับสีได้ดี หากเลือกให้ถูกสี ช่วยให้ข้ามขั้นตอนการทาครีมกันแดดไปในตัว เพราะมี SPF34/PA++ปกติตัวปรับโทนสีผิวมักมาในรูปแบบที่เป็นเบสปรับสีผิว แต่ตัวนี้มาในรูปแบบของ Primer ทำให้ช่วยในการทำให้รองพื้นติดทนมาขึ้น ระหว่างวันไม่ไหลไม่เยิ้ม ส่วนตัว PORE PRIMER เราว่าเนื้อนางเยี่ยมมาก เทียบเท่ากับโปรไพรเมอร์แพงๆ ได้เลย พรางรูขุมขนได้อย่างดี และควบคุมความมันได้ดีด้วย

เพื่อนๆ สามารถเลือกสีที่เหมาะกับผิวตัวเอง เพื่อให้สีผิวดูสวยมากยิ่งขึ้น อย่าลืมว่าควรเลือกสีให้ตรงกับผิวเพราะจะทำให้แก้ไขได้ถูกจุด และเลือกทาในปริมาณที่พอเหมาะจะดีที่สุด วันนี้ต้องลาไปก่อน หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ Jeab.com ทุกคนนะจ๊ะ

ติดตาม Jeab.com

Jeab.com มี LINE แล้วนะ

ติดตามเรื่องราวไลฟ์สไตล์ทันสมัยสำหรับผู้หญิงยุคดิจิตอล ได้ทุกวันผ่าน LINE ID @jeabdotcom