ถูกแล้วที่การรักใครควรจะใช้สมอง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำทุกอย่างตามสมองมากกว่าหัวใจ วันนี้เราจึงชวนสาว Jeab.com มาเช็ค 7 เหตุผลของความสัมพันธ์ที่บอกว่าควรเชื่อหัวใจมากกว่าสมอง!
1.แทนที่จะทำตามความรู้สึกกลับมีแผนในความสัมพันธ์
เชื่อว่าหลายคนเป็นผู้หญิงที่มีแผนในสมอง มองทุกอย่างเป็นตรรกะว่าต้องแบบนี้ถึงจะถูก เช่น รอให้เขาส่งข้อความมาก่อน รอให้เขาเป็นฝ่ายคนชวนไปกินข้าว จริงๆแล้วในใจ อยากส่งข้อความไปหาก่อน เอ่ยปากชวนไปกินข้าวหรือไปเที่ยวในที่ต่างๆ แต่กล้วว่าถ้าเป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยปากก่อนจะเสียฟอร์มเอา แต่ในบางทีในความสัมพันธ์นั้นเราไม่จำเป็นต้องทำตามแผนที่มีในสมองก็ได้ ลองทำตามใจบ้างก็ได้ เช่น ถ้าอยากส่งข้อความไปหาเพราะคิดถึงก็ส่งไป หรือ ชวนไปกินข้าวในวันว่างๆ ถ้าเป็นกิจกรรมไม่ได้เสียหาย ก็ลองทำตามใจเป็นฝ่ายชวนก่อนดูบ้างก็ได้นะ เพราะนอกจากได้ทำตามใจแล้วยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในความสัมพันธ์อีกด้วย
2.คิดมากเกินไป
เป็นกันบ้างมั้ยที่ชอบตั้งคำถามกับสิ่งที่เขาทำ หรือ สงสัยในสิ่งที่เขาพูด คิดมากเกินกว่าสิ่งที่เห็นแถมบางทีนำไปวิเคราะห์ต่อต่างๆหาเหตุผลมากมายเพื่อไปตั้งคำถามต่ออีก ในการรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว การเชื่อใจ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ลองเชื่อในสิ่งที่เป็น ไม่ต้องคิดมาก ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ วันหนึ่งก็คงปรากฎให้เห็นเอง
3.กังวลไปก่อน
ในทุกความสัมพันธ์มีความไม่แน่นอนเสมอ แต่การกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ยาวนานขึ้นเลย เลิกตามสมองทิ้งความกังวลที่มีอยู่มากมายมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีในปัจุบันดีกว่า ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ในตรงหน้าให้เต็มที่แล้ว เชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตเราจะไม่เสียดายที่กับทุกความรู้สึกที่ผ่านมาเลย
4.หยิ่งมากเกินไป
โดยสัญชาตญาณเราเมื่อเราเชื่อสมองมากกว่าหัวใจ เราจะมักจะทำอะไรเพื่อปกป้องความรู้สึกมากกว่าจะทำตามหัวใจ ซึ่งผลที่ตามมาทำให้เรากลายเป็นคนมีกรอบและหยิ่งดูเป็นคนไม่มีความรู้สึก ซึ่งบางครั้งในความสัมพันธ์ เราควรแสดงความรักออกมาบ้างโดยไม่ต้องทำตามสมองดูบ้าง
5.ไม่พูดสิ่งที่คิด
ถ้าเราใช้ความคิดมากกว่าความรู้สึก เรามักมีเหตุผลมากมาย เพราะสมองจะควบคุมว่าแบบนี้ดีนะ แบบนี้ไม่ดี ส่งผลทำให้เรากลายเป็นคนมีกรอบ ไม่สามารถแสดงความรู้สึกกับใครได้ลึก ในทางกลับกันถ้าเราอยากลองเปิดใจรักใครสักคนจริงๆ ลองเปิดใจพูดสิ่งที่แบบตรงไปตรงมาดู แล้วการรักษาความสัมพันธ์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
6.การไม่ทำตามความรู้สึก
การใช้สมองมากเกินไปทำให้เราไม่เป็นตัวเองร้อยเปอร์เซนต์ สมองรู้ว่าความรักไม่มีเหตุผล สมองรู้ว่าความรักทำให้เราโง่เป็นบางเวลา สมองส่งสัญญาณเตือนต่างๆเมื่อเรากำลังจะเจอสิ่งที่ทำให้เราเสียใจ พอเราทำตามทุุกตามสมอง เรากลับเสียใจซะเอง เช่น แค่แฟนทำตัวแปลกไปสมองก้สั่งการว่านี่คือสัญญาณไม่ดี ต้องหาเหตุผลว่าทำไม แต่พอหาเหตุผลทุกอย่างมาสนับสนุน เรากลับเสียเขาไป เพราะความไม่ไว้ใจ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรเลย สุดท้ายเราก็จะไม่มีใคร บางครั้งความรักไม่ต้องเชื่อสมองมากก็ได้ นำสัญญาณต่างๆมาเตือนสติให้ไม่ประมาทแต่ทำทุกอย่างตามความรู้สึกแค่นี้เราก็สามารถรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืนแล้ว
7.ไม่เปิดหัวใจ
ปัญหานี้มักเกิดจากทุกคนที่ผ่านความเสียใจครั้งยิ่งใหญ่มา สมองจะจำความรู้สึกและเหตุผลที่เราเสียใจมาเป็นเกราะป้องกันเพื่อไม่ให้เราต้องเสียใจอีก เช่น ถ้าได้ยินประโยคแบบนี้มันคือคำโกหกนะ เราจะไม่เชื่อมันอีก มันดีดีตรงที่เรามีภูมิต้านทานแต่กลับกันมันทำให้เรากลายเป็นคนไม่เปิดใจรับใครจริงๆ ซึ่งความจริงความรักต้องการเชื่อใจ ไว้ใจ ความรักที่ดีจึงจะเกิดขึ้น เราอาจจะเจอเรื่องเจ็บปวดมา แต่ไม่ได้หมายความว่ารัก ครั้งใหม่จะเป็นแบบเดิม ถ้ามัวแต่กลัวเสียใจมากเกินเราอาจจะเสียคนดีไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ
ความรักที่ดีควรใช้สติในการประคบประคองแต่อย่าให้สมองความกลัวต่างๆมาบังคับให้ไม่เป็นตัวเรา หากเจอคนที่อยากใช่ชีวิตด้วยแล้ว ลองใช้หัวใจนำสมองดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าความรักที่ดีไม่ได้อยู่ที่ดวง ไม่ได้อยู่ที่โชคชะตา แต่อยู่ที่หัวใจเราล้วนๆ ถ้าสาว Jeab.com เจอความรักดีๆแล้วใช้หัวใจรักษาความรักนี้ให้อยู่นานๆนะคะ