จบลงไปแล้วสำหรับซีรี่ส์ #StartUpEP16 ใครดูจบแล้ว อยากบอกว่าอะไรกันบ้าง ? สำหรับเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์ที่เราอยากแนะนำให้ดู สนุกมากและนักแสดงเล่นดีทุกคนเลย 😊 ตอนจบแฮปปี้ แต่ไปดูกันเองเนอะ ทุกตัวละครทำให้อินสุดๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นธุรกิจเต็มร้อย แต่เป็นจุดเริ่มต้นให้เรารู้จักสตาร์ทอัพได้ดีขึ้น

‘สตาร์อัพ’ ถูกนำมาทำเป็นเส้นเรื่องจุดเริ่มต้นของซีรี่ส์เรื่องนี้ เรื่องราวในซีรี่ส์เริ่มต้นแบบย้อนไปอดีตแล้วค่อยมาปัจจุบัน ทำให้เห็นว่าทุกตัวละครมีพัฒนาการ มีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งดูเลยยิ่งอินไปกับการเติบโตของแต่ละตัวละคร เหมือนเป็นแม่เฝ้าดูลูกๆ

ตั้งแต่ดูมาเรารักในความ ซอดัลมี ที่จะเห็นการเติบโตของเธอทุกตอน จากที่เคยมุทะลุไปบ้าง ไม่รอบคอบไปบ้าง อิจฉาพี่สาว แต่เราจะเห็นความตั้งใจในการพยามทำงานของเธอตลอดทุกอีพี เธออยากขึ้นลิฟต์ผู้บริหาร สุดท้ายความพยายามก็ทำให้เธอทำได้

ไม่เพียงแต่เราที่รักในบทบาทของซอดัลมี นักแสดงหลักอย่าง แบซูจี เองก็ได้เผยความรู้สึกหลังซีรี่ส์เรื่องนี้จบลงเอาไว้เช่นกัน

“ฉันมีความสุข แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้า ฉันแสดงเป็นดัลมีมา 8 เดือน ซึ่งน่าเสีดายที่ตอนนี้การถ่ายทำจบลงแล้ว – แบซูจี”

นัมโดซาน ผู้ชายซื่อๆ ที่พร้อมทำทุกอย่างให้กับดัลมี ฉลาด เก่ง แต่ไม่มีความมั่นใจ มีความกดดันเยอะ เราเห็นการเติบโตของโดซานเยอะมากในเรื่องนี้ จากคนที่ไม่มั่นใจตัวเอง คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ เมื่อได้เปล่งประกาย เขากลับมาอีกครั้งในมาดใหม่ และความมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่มีอะไรที่คิดแล้วทำไม่ได้ ถ้าไม่สำเร็จ ก็เป็นประสบการณ์

นัมจูฮยอก เผยความรู้สึกที่มีต่อซีรี่ส์เรื่องนี้เช่นเดียวกัน เขาบอกว่า

“ทุกคนทำงานหนักมากเป็นเวลา 8 เดือน ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากตัวละครนัมโดซานที่เผชิญกับความเจ็บปวด – นัมจูฮยอก”

ฮันจีพยอง ที่ทำให้ทีมพระรองมาแรงสุดๆ ความเพอร์เฟ็กต์ของคนคอยซัพพอร์ตทั้งพระนาง ซอดัลมีทั้งเรื่อง สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือ ความกตัญญูที่มีต่อคุณย่า ทุกซีนจะเห็นว่าอีโมชั่นของเรื่องมันอบอุ่น ซึ้ง เศร้า เรียกน้ำตาตลอด ความเปลี่ยนแปลงของจีพยองที่เราเห็นชัดๆ เลย ก็คือ จากที่เคยพูดจาตรงไปตรงมา เด็ดขาด เมื่อรู้ว่าคำพูดตัวเองอาจไปทำร้ายความรู้สึกใครได้ เขาก็เรียนรู้และแก้ไข ปรับปรุงตัวเองในจุดนี้

คิมซอนโฮ ผู้รับบทฮันจีพยอง เผยความรู้สึกที่มีต่อซีรี่ส์เรื่องนี้เมื่อจบลงว่า

“ระยะเวลา 8 เดือน อาจจะยาวหรือสั้น ขึ้นกับวิธีที่คุณใช้มอง มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรัก ความสนุกสนาน และความสุข – คิมซอนโฮ”

วอนอินแจ พี่สาวนางเอกที่ดูเป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยแสดงออก แต่จะเห็นว่าเธอคนนี้ก็เติบโต จากที่เคยอยู่กับพ่อบุญธรรม ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยตัวเอง ก่อตั้งบริษัทจนสำเร็จ ที่สำคัญคือ เธอรักน้องสาวไม่แพ้ใคร อินแจไม่ค่อยพูด บางทีก็พูดร้ายๆ แต่เรามักเห็นสายตาของเธอ แสดงออกตลอดว่าภูมิใจในตัวดัลมี ที่ทำสิ่งต่างๆ ได้ดี

คังฮานา ผู้รับบท วอนอินแจ เองก็แสดงให้เห็นว่าเธอปรารถนาให้ผู้ชมรู้สึกมีความหวัง และ ความพยายาม เช่นเดียวกับซีรี่ส์

นอกจากตัวละครหลักทั้ง 4 คนในเรื่องนี้แล้ว ใน Start-Up ยังมีอีกหลายตัวละครที่เราไม่พูดถึงไม่ได้ อาทิ

คุณย่า คือ ผู้ใหญ่คนเดียวในเรื่องที่ไม่ว่าจะมาซีนไหน ก็เรียกน้ำตาเราได้ เป็นคนที่อบอุ่นมากๆ ทั้งกับดัลมี จีพยอง ลูกสะใภ้ตัวเอง หรือแม้แต่โดซาน ทุกซีนที่ตัวละครไหนเล่นกับคุณย่า โมเม้นต์มันให้ความรู้สึกเรียลมากๆ คุณย่ามักมีคำสอนดีๆ แทรกอยู่ในเรื่องเสมอ ดูแล้วอบอุ่น ดัลมีและจีพยองโชคดีที่มีคุณย่าอยู่ด้วยจริงๆ

ซัมซานเทค ยงซาน ชอลซาน และ คุณซาฮา คือสีสันของเรื่องที่ทำให้ยิ่งดูยิ่งสนุก

แถมอีกนิดนึง ยองชิล ผู้ที่มาแต่เสียง แต่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหลายๆ สิ่ง เพื่อนซี้จีพยอง ผู้ช่วยสร้างความสำเร็จให้นุนกิล อีกหนึ่งสีสันของเรื่อง

รีวิวนี้ เป็นเพียงส่วนนึงความรู้สึกที่ดูมา เรื่องราวจะเป็นยังไงจนจบนั้น เราไม่สปอยด์ค่า ตามไปดูซับไทยที่ Netflix ได้เลย ส่วนเราอยากทิ้งท้ายอีกนิดว่า อยากบอกว่าไม่อยากให้จบลงเลย เราอยากเห็นการเติบโตของตัวละครมากกว่านี้ แม้ว่าบทสรุปทั้งหมดจะออกมาลงตัวดี ตรงนี้คงต้องไปลองดูกันนะคะ เราจะพยายามไม่สปอยด์อย่างที่บอก แค่บอกว่า Happy Ending มีหลายฉากที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมา แต่เนื้อเรื่องก็สร้างบทสรุปที่เฉลยอะไรหลายๆ อย่างไว้ให้เห็นได้ในตอน ทำให้สามารถมโนเรื่องราวต่อได้ ถือว่าเป็นซีรี่ส์น้ำดีอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ลองดูกันค่ะ ใครยังไม่ได้ดู มีวันหยุดยาวๆ ลองหาเวลาดูทีเดียว อาจจะฟินไม่ต่างกัน

ขอบคุณนักแสดงที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาให้เหล่าคนดูแบบเราอินสุดๆ เช่นนี้ พวกคุณเก่งมากค่ะ