และแล้วเราก็ได้ฤกษ์เข้าสู่โลกใหม่แห่งความเงียบที่มาพร้อมกับความเพลิดเพลิน! ใช่แล้ว…เรากำลังจะมารีวิว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ให้เพื่อนๆ กันค่า อย่างที่สาวก Apple ทราบดี ในงานเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple เองก็ได้ประกาศจะปล่อย AirPods Pro รุ่นที่ 2 ออกมาเช่นกัน ซึ่งวันนี้เข้าไทยแล้วจ้า สามารถสั่งออนไลน์ใน Apple.com ได้แล้ว ซึ่งเขาก็เริ่มจัดส่งแล้วด้วย
ต้องบอกก่อนว่าปกติเราเป็นคนใช้หูฟังบ่อยมาก แต่เราใช้เป็นตัว Gen2 มาได้สองสามปี เพราะส่วนตัวชอบใช้ดูหนัง ดูซีรี่ส์มาก แต่ขณะเดียวกัน งานก็ต้องทำเนอะ ประชุมออนไลน์บ่อยๆ ใช้เป็น Smalltalk บ้าง ใช้งานเยอะจนเป็นไอเทมติดตัวตลอดเวลา ซึ่งก่อนจะไปดูรีวิวเต็มๆ ของหูฟัง เราจะชวนมาดูสเป็กของ AirPods Pro สั้นๆ กันก่อน
สเป็ก AirPods Pro รุ่นที่2
- มาพร้อมกับฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ อันนี้คือตัดปุ๊ปเสียงหายปั๊ป
- โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะได้ เสียงภายนอกอาจจะหลอดมาบ้าง แต่เพื่อให้เราระวังสิ่งต่างๆ ได้ด้วย
- การควบคุมเสียง ระดับเสียง มาแบบสัมผัส ใช้มือสไลด์ขึ้นลงที่ตัวหูฟังได้เลย
- มีระบบเสียงตามตำแหน่ง ติดตามศีรษะแบบไดนามิก
- ชิป H2 ทำให้เสียงออกมามีคุณภาพดี เสียงสูงใสคมชัด เสียงเบสก็ทุ้มลึกชัดเจน เสียงจะสมจริงมากขึ้น
- มี EQ สำหรับปรับเสียงให้เข้ากับหูเราแบบเรียลไทม์ได้ด้วย และไมค์โครโฟนจะหันมาด้านในทำให้ได้ยินเสียงเราชัดเจนเวลาที่เราพูด
- ทนน้ำ ทนเหงื่อ และ สามารถใช้เคสชาร์จได้
- ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและฟังสูงสุด 30 ชม. เมื่อมีเคสชาร์จ
- เวลาชาร์จ ถ้าใส่ในเคส 5 นาที ก็ใช้ฟังได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง หรือสนทนาได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง
- สามารถสลับอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ เช่น เปิดกับ iPhone แต่สักพักเราใส่ Apple Watch อุปกรณ์สลับให้ทันที เพื่อความต่อเนื่อง
- มีช่องคล้องสายสำหรับสายคล้อง
- มีจุกหูฟังซิลิโคน 4 ขนาดไปเลยค่า XS ,S , M (มาตรฐาน), L จะใส่ทั้งที ยังไงต้องพอดีกับหู
- คุยกับ Siri ก็ได้
- ราคา 8,990 บาท
การควบคุมการใช้ AirPods Pro รุ่นที่ 2
- บีบหนึ่งครั้ง สำหรับเล่น หยุดพัก หรือ รับสายโทรศัพท์
- บีบสองครั้ง คือ ข้ามไปข้างหน้า
- บีบสามครั้ง คือ ข้ามไปข้างหลัง
- บีบค้างไว้ คือ ตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ และ โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ
- ปรับระดับเสียงด้ัวยการ เลื่อนสไลด์ขึ้น-ลง
เมื่อ ‘เสียงรบกวน’ มาทำให้หนักหู ก็ตัดออกให้หมด
ด้วยความที่ตอนนี้ทำงานกันแบบ Hybrid บางทีก็ WFH ในบ้านก็จะมีทั้งเด็กๆ เล่นกัน เสียงโทรทัศน์ที่คนนั้นคนนี้เปิด เสียงคนโน้นนี่ดังลอดเข้ามาตลอด หรือบางทีหนักๆ ก็ประชุมไป ข้างบ้านก็ตอกเสาเข้ม ต่อเติมบ้านไป บรรดาเสียงรบกวนต่างๆ คือเยอะมาก ซึ่งบางทีก็ทำให้อรรถรสหายไปได้เช่นกัน
แต่เมื่อได้ลองใช้ AirPods Pro รุ่นที่ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ สามารถเลือกโหมดที่แบบตัดเสียงรบกวนทิ้งไปหมดได้เลย
วิธีตั้งค่าตัดเสียงรบกวน
- เข้าไปที่เมนูตั้งค่าใน iPhone
- เลือก Bluetooth หรือหากเชื่อมต่อแล้ว ก็จะอยู่ตรงหน้าตั้งค่าเลย จะมีหูฟังเราโผล่มาให้เลือกตรงนั้น
- จากนั้นเข้ามาที่หูฟัง จะเจอตั้งค่าต่างๆ ของตัว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่เราใช้ ซึ่ง Noise Control หรือตั้งค่าตรงเสียงรบกวน จะอยู่บนสุดเลย เราสามารถเห็นได้ง่ายๆ เราจะเอาแบบไหนก็เลือกได้เลยค่ะ
จะมีด้วยกัน 3 แบบให้เลือก
- Noise Cancellation (ตัดเสียงรบกวน)
- Off (ปิด)
- Transparency (ตัดเสียงรบกวนแบบปรับตามสภาวะด้านนอก คือยังมีเสียงรบกวนออกมาบ้าง แต่จะลดเสียงดังๆ เช่น เสียงไซเรน เสียงเครื่องจักร ให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ฟังได้แบบสบายหูสุด)
แต่เวลาเลือกโหมด Noise Cancellation (ตัดเสียงรบกวน) อย่าเผลอใช้เวลาอยู่ข้างนอกริมทางอะไรแบบนี้นะคะ เพราะเอาจริง AirPods Pro รุ่นที่ 2 นี้ ตัดเสียงรบกวนคือเสียงหายกริบเหมือนมีคนเอามือมาอุดหูหลายๆ ชั้น ด้วยความที่เป็นหูฟัง อาจจะไม่เห็นภาพ แต่มันแบบนั้นเลย เสียงดังหนักๆ แต่พอเลือกโหมดตัดเสียงรบกวน คือ วืบบบบบ เสียงหาย และโฟกัสกับเสียงในหูฟังอย่างเดียว
แต่บนข้อดีก็มีข้อควรระวัง เพราะหากเราเดินข้างนอก เสียงอื่นๆ เราอาจจะไม่ได้ยินเลย เสียงรถ เสียงเตือนต่างๆ ดังนั้นต้องมีสติเวลาใช้งานด้วยนะ ถ้าอยู่ข้างนอก อาจเลือกเป็นโหมด Transparent อย่างน้อยตัดเสียงรบกวนหนักๆ ออก แต่ก็ยังได้ยินเสียงรอบด้านอยู่ด้วย ไม่ได้ตัดทั้งหมด เพื่อให้เราสามารถระวังได้ เราจะได้ป้องกันอันตรายต่างๆ ได้ด้วย
เพลิดเพลินกับเสียงได้ตลอดเวลา เพราะมีระบบเสียงตามตำแหน่ง ติดตามศีรษะแบบไดนามิก
ระบบนี้ จะมีให้เราแสกนหูด้วยล่ะว่าหูซ้าย หูขวา เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นการยกระดับการฟังเฉพาะบุคคลเข้าไปด้วย ตอนทำก็คือแบบ หาตำแหน่งหูกันไป คล้ายๆ กับสแกนใบหน้า Face ID แต่เปลี่ยนมาแสกนใบหน้าและหูด้วย
เลือกหูฟังให้พอดีกับ ‘หู’ เพื่อการฟังที่เพลิดเพลินกว่าเคย
ด้วยความที่เปลี่ยนจาก AirPods Gen2 มาเป็นรุ่นนี้ ก็จะมีความแตกต่างกันเยอะอยู่ สำหรับใครที่ไม่ค่อยใส่หูฟังแบบ in ear ที่จะมีจุกหูฟังเพราะกลัวขนาดใส่ไม่ได้ ขอบอกว่าเราคือเพื่อนกัน เมื่อก่อนไม่ค่อยชอบใส่เพราะใส่แล้วมันไม่พอดี แต่พอได้ลองของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ครั้งแรก เห้ย มันโอเคอยู่นะ คือขนาดจุกยางที่มากับตัวหูฟังเลย สำหรับเราก็ยังใหญ่ไปนิดนึง แต่ด้วยความที่ AirPods Pro รุ่นนี้มีขนาดจุกหูฟังซิลิโคนให้เปลี่ยนได้หลายขนาดอยู่นะ ในใจคิดอย่างน้อยก็ต้องมีสักขนาดแหละที่พอดีกับรูหูเราแล้วแน่ๆ
ซึ่ง AirPod Pro มีให้เลือกขนาดจุกหูฟังซิลิโคนทั้งหมด 4 ไซส์ด้วยกัน ก็คือ M (คือขนาดมาตรฐานที่มาพร้อมกับตัวหูฟังเลย) และมีให้เลือกเปลี่ยนเป็นไซส์ XS,S,L ตามขนาดรูหูของแต่ละคนด้วย
แต่หากใครไม่รู้ว่า แล้วรูหูเรา ใส่กับแบบไหนดี ตรงนี้หลังจากที่เรา Connect Airpods Pro รุ่นที่ 2 กับตัว iPhone ที่ใช้แล้ว เข้าไปตั้งค่าและ Test ดูได้ด้วยนะว่า จุกหูฟังที่เราใส่ มันพอดีกับหูเราหรือไม่
- เข้าไปที่เมนูตั้งค่าใน iPhone
- เลือก Bluetooth หรือหากเชื่อมต่อแล้ว ก็จะอยู่ตรงหน้าตั้งค่าเลย จะมีหูฟังเราโผล่มาให้เลือกตรงนั้น
- จากนั้นเข้ามาที่หูฟัง จะเจอตั้งค่าต่างๆ ของตัว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่เราใช้
- เลือกเมนู Ear Tip Fit Test อันนี้แหละ ไว้สำหรับดูว่าหูฟังที่เราใส่อยู่ มันพอดีกับหูเราหรือยัง แล้วเราเลือกขนาดจุกหูฟังถูกขนาดหรือเปล่า
ไม่เพียงแต่ตัดเสียงรบกวนนะ ในเรื่องของการ ตกแต่ง ปกติหลายคนคงชอบใส่เคส บางคนก็อยากหาสายมาคล้องกลัวหาย ซึ่งรอบนี้ถือว่า Apple ศึกษามา จากที่ปกติ AirPods เราต้องหาเคสมาใส่กันตกบ้างละ ถ้าใครอยากจะห้อยสายคล้องก็ต้องดูที่ตัวเคสอีกที แต่รอบนี้ นางมาพร้อมกับรูสำหรับให้คล้องสายเองเลย ใครไม่อยากใส่เคสก็คือ แค่หาสายคล้องเก๋ๆ มาคล้องมือ คล้องคอ ได้แล้วล่ะ
ตั้งค่าต่างๆ แล้ว ก็เริ่มเลย….เพลิดเพลินไปกับโลกใหม่แห่งความเงียบที่ไม่เหมือนเดิม เสมือนคำโปรยของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 นี้ เพราะมันเพลินกว่าเดิมจริงๆ
เป็นยังไงบ้างคะ รีวิว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่วันนี้นำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน หากใครสนใจอยากจะช้อปบ้าง อันนี้บอกเลย สั่งใน Apple Store ออนไลน์ และ นัดวันเข้าไปรับกันก็ได้นะ หรือ เลือกจัดส่งไปที่บ้านก็ได้เหมือนกัน รายละเอียดเพิ่มเติมดูกันที่ www.apple.co.th ได้เลย
Copyright © Jeab.com