เชื่อว่าใครที่ติดตามข่าวของ Iphone 8 ไม่น่าพลาด Apple Special Event การเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ของ Apple หลังจากที่เห็นข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ Iphone รุ่นใหม่ ทำให้อีเว้นท์ครั้งนี้เป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก ซึ่งก็แทบจะไม่มีอะไรพลิกโผต่าจากในข่าวลือมากนัก ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง เรารวบรวมสรุปง่ายๆมาให้สาวกที่กำลังติดตามดูกัน
สรุปสินค้าแอปเปิ้ลที่เปิดตัวในงาน Apple Special Event
- Apple Watch series 3 + cellular
- Apple TV 4K
- iPhone 8/8+
- iPhoneX
ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า IPhone 8/8+ และ Iphone X มีคุณสมบัติอะไรที่โดดเด่นบ้าง
iPhone 8/8+
ดีไซน์ไม่แตกต่างจาก Iphone 7 เท่าไหร่ แต่มีสีและวัสดุใหม่ที่น่าจะโดนใจสาวๆไม่น้อย
- มีสีใหม่ “Silver,” “Space Grey” และ “Gold.”
- iPhone 8 ตัวเครื่องมีขนาด 138.4×67.3×7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 148 กรัม
- iPhone 8+ ตัวเครื่องมีขนาด 158.4×78.1×7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 202 กรัม
- เพิ่มความสวยงามด้วยวัสดุทำจากกระจก
- A11 Bionic (ชิปเซ็ตประมวลผล 64-bit Hexa-Core Apple A11 )
– เร็วกว่า 12 ประหยัดพลังงานมากกว่า 70% CUP ยาวกว่า 30% - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB และ 256GB
- iPhone 8 กล้องด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, ไฟแฟลชแบบ Quad-LED, Optical Zoom, ถ่ายวิดีโอ Slow Motion ได้ในความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 240fps / กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 และบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD
- iPhone 8+ กล้องด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ใช้งานเลนส์ Wide และ Telephoto, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และ F/2.8, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, ไฟแฟลชแบบ Quad-LED, Optical Zoom, ถ่ายวิดีโอ Slow Motion ได้ในความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 240fps
– กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 และบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD - ฟีเจอร์กันน้ำ IP67
- รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)
- iPhone 8 ราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์ (ประมาณ 23,200 บาท)
- iPhone 8 ราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 27,500 บาท)
มาต่อกันที่นางเอกของเรากันเลย
Iphone X (อ่านว่าไอโฟนเท็น)
นางเอกของจริงๆสำหรับ Iphone X ซึ่งมีดีไซน์และคุณสมบัติที่เหมือนกับข่าวลือที่เคยมีมา ทีน่าสนใจจริงๆคงเป็น Animoji ที่สามารถสแกนหน้าและขยับพร้อมใส่เสียงของเราแบบ Real Time
- ตัวเครื่องมีขนาด 143.6×70.9×7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 174 กรัม
- Silver และ Space Grey
- หน้าจอแสดงผลแบบ OLED Super Retina HD แบบไร้ขอบ ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436×1125 พิกเซล ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 458 ppi
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB และ 256GB
- กล้องด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ใช้งานเลนส์ Wide และ Telephoto, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และ F/2.4, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ (Dual-OIS), ไฟแฟลชแบบ Quad-LED, Optical Zoom, ถ่ายวิดีโอ Slow Motion ได้ในความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 240fps
– กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 และบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด
- สูงสุด Full HD
- เทคโนโลยี AR ช่วยจับหน้าให้แม่นยำมากขึ้น
- Face ID ความพิเศษคือ 3D ดูความลึกของพื้นผิว หรือ เบ้าหน้าของเรานั่นเอง
- ชิปเซ็ตประมวลผล 64-bit Hexa-Core Apple A11
- Apple Pay
Animoji
– แสกนหน้าแล้วอิโมจิเป็นหน้าเรา มีเสียง ขยับได้แบบ Real Time
- ฟีเจอร์กันน้ำ IP67
- แบตเตอรี่อยู่ในนานกว่า Iphone7 ประมาณ 2 ชั่วโมง
- รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)
- iPhone X ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000 บาท)
สรุปความแตกต่างระหว่าง iphone8 กับ iphone x แบบง่ายๆ
- ดีไซน์
- วัสดุ
- กล้อง
- การสแกนหน้า
- iPhone 8 ราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์ (ประมาณ 23,200 บาท)
- iPhone 8+ ราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 27,500 บาท)
- iPhone X ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000 บาท)
- วางขายวันเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ปีนี้
Air Power
เป็นอีกชิ้นที่น่าสน Air Power แท่นชาร์จใหญ่ สามารถชาร์จผลิตภัณฑ์ในเครือ Apple ได้พร้อมๆกัน
งานนี้มาลุ้นกันว่าเมื่อเข้าไทยแล้วจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ ใครสนใจตามไปดูต่อที่ Apple ได้เลยค่ะ
ข้อมูลจาก Apple Special Event