เป็นอีกหนึ่ง Event ที่จับตามอง สำหรับการเปิดตัว IOS 15 จาก Apple ในงาน WWDC 2021 ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์สุดปังมากมายย ไม่ว่าจะเป็นการคัดลอกข้อความจากรูป , การดูหนังพร้อมกับ Facetime ไปด้วย หรือแม้แต่การตั้งค่าเรื่องที่อยากโฟกัส และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฟีเจอร์เหล่านี้เท่านั้น ยังมีรายละเอียดอีกมากให้ติดตาม ตามนี้เลยค่ะ
ล่าสุดApple® ได้เปิดตัว iOS 15 ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญที่มาพร้อมคุณสมบัติอันทรงพลังที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone® ไปอีกขั้น iOS 15 ทำให้การโทร FaceTime มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และมาพร้อม SharePlay สำหรับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่ด้วยวิธีใหม่สำหรับจัดการกับการแจ้งเตือน และยังเพิ่มความอัจฉริยะให้กับรูปภาพและการค้นหาเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ยิ่งกว่านั้นแอปแผนที่ของ Apple ยังเปิดตัววิธีใหม่อันสวยงามในการสำรวจโลก ในขณะที่แอปสภาพอากาศได้รับการออกแบบใหม่ให้มีแผนที่แบบเต็มหน้าจอและกราฟิกแสดงข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ส่วนแอป Wallet เพิ่มการรองรับกุญแจบ้านและบัตรประจำตัว แถมยังทำให้การท่องอินเทอร์เน็ตด้วย Safari® นั้นง่ายยิ่งขึ้นด้วยแถวของแถบเว็บไซต์ในดีไซน์ใหม่และ Tab Groups นอกจากนี้ iOS 15 ยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับควบคุมความเป็นส่วนตัว ทั้งใน Siri®, แอปเมล และอีกหลายแห่งทั่วทั้งระบบที่จะช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
การโทร FaceTime ที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น พร้อมด้วย SharePlay สำหรับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน
FaceTime ช่วยให้ลูกค้าติดต่อกับคนสำคัญได้ง่าย และใน iOS 15 นั้น การพูดคุยกับเพื่อนๆ และครอบครัวก็จะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เพราะมีระบบเสียงตามตำแหน่งที่จะทำให้เสียงพูดขณะโทร FaceTime ฟังดูราวกับว่ามาจากตำแหน่งที่บุคคลนั้นอยู่บนหน้าจอจริงๆ1 พร้อมด้วยโหมดไมโครโฟนใหม่ที่จะช่วยแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง และวันนี้ FaceTime ยังมาพร้อมโหมดภาพถ่ายบุคคล ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพบุคคลอันน่าทึ่งที่ถ่ายด้วย iPhone โดยที่โหมดนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการวิดีโอคอล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเบลอฉากหลังและโฟกัสที่ตัวเองได้2 ยิ่งกว่านั้นขณะใช้ FaceTime แบบกลุ่มยังมีมุมมองตารางแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเห็นหน้าคนอื่นๆ พร้อมกันได้มากขึ้นด้วย
เครื่องมือช่วยโฟกัส
iOS 15 มีเครื่องมืออันทรงพลังที่จะลดสิ่งรบกวนสมาธิและช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่ นั่นคือ “โฟกัส” ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่จะกรองการแจ้งเตือนและแอปโดยพิจารณาจากสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการโฟกัส ลูกค้าสามารถตั้งค่าอุปกรณ์เพื่อให้ตนเองจดจ่อกับเรื่องปัจจุบันได้เต็มที่โดยการสร้างโฟกัสในแบบของตัวเอง หรือเลือกโฟกัสที่แนะนำให้โดยอาศัยระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์ ซึ่งจะแนะนำว่าควรอนุญาตให้บุคคลใดหรือแอปใดแจ้งเตือนได้บ้าง คำแนะนำของโฟกัสจะอ้างอิงตามบริบทของผู้ใช้ อย่างในระหว่างเวลางาน หรือขณะกำลังผ่อนคลายก่อนเข้านอน และเมื่อตั้งค่าโฟกัสบนอุปกรณ์ Apple เครื่องหนึ่งแล้ว ก็จะมีผลกับอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่นของผู้ใช้ด้วยโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถสร้างเพจในหน้าจอโฮมที่ประกอบด้วยแอปและวิดเจ็ตต่างๆ ที่เข้ากับช่วงเวลาที่อยากโฟกัสเพื่อให้แสดงเฉพาะแอปที่สอดคล้องกับช่วงเวลานั้น และลดสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ และเมื่อโฟกัสที่ผู้ใช้ตั้งไว้บล็อคการแจ้งเตือนที่มีเข้ามา สถานะของผู้ใช้ที่ผู้อื่นเห็นในแอปข้อความก็จะเปลี่ยนไปด้วยโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงว่าขณะนั้นผู้ใช้ไม่สามารถติดต่อได้
ประสบการณ์ใหม่สำหรับการแจ้งเตือน
การแจ้งเตือนได้รับการออกแบบใหม่โดยการเพิ่มรูปของผู้ติดต่อในกรณีที่มาจากบุคคลและมีไอคอนที่ใหญ่ขึ้นในกรณีที่มาจากแอป ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้ระบุได้ง่ายขึ้นว่าเป็นการแจ้งเตือนอะไร และยังมีคุณสมบัติใหม่สำหรับสรุปการแจ้งเตือนเพื่อช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิโดยการรวบรวมการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นต้องรู้ทันทีในขณะนั้นมาแสดงในเวลาที่เหมาะสมกว่า อย่างในช่วงเช้าและเย็น โดยที่ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์จะจัดเรียงการแจ้งเตือนตามลำดับความสำคัญ พร้อมกับแสดงการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้น่าจะสนใจที่สุดไว้บนสุด ซึ่งอ้างอิงตามการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับแอปต่างๆ ส่วนข้อความด่วนก็จะมีการแจ้งเตือนในทันทีเพื่อไม่ให้การติดต่อที่สำคัญหลุดไปอยู่ในส่วนสรุป อีกทั้งยังสามารถปิดการแจ้งเตือนของแอปหรือหัวข้อการสนทนาใดก็ได้ง่ายๆ เป็นการชั่วคราวในช่วงหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าหรือตลอดทั้งวัน
ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์คือขุมพลังสำหรับ Live Text, การค้นหาด้วย Spotlight อันล้ำสมัย และอีกมากมาย
Live Text ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพแล้วให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถค้นหาและระบุตำแหน่งของภาพสูตรอาหารที่เขียนด้วยลายมือ หรือเก็บบันทึกหมายเลขโทรศัพท์จากภาพของหน้าร้านพร้อมตัวเลือกให้โทรติดต่อได้ ยิ่งกว่านั้นยังมี Apple Neural Engine อันทรงพลังที่ทำให้แอปกล้องสามารถตรวจหาและคัดลอกข้อความได้อย่างรวดเร็วขณะใช้งานอยู่ เช่น รหัสผ่าน Wi-Fi ที่แสดงอยู่ในร้านกาแฟ นอกจากนี้ยังมี Visual Look Up ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะชื่อดังและสถานที่สำคัญทั่วโลก รวมถึงพันธุ์ไม้และดอกไม้ที่พบตามธรรมชาติ สัตว์สายพันธุ์ต่างๆ หรือแม้แต่หาหนังสือ
วันนี้ Spotlight® ใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อค้นหารูปตามตำแหน่งที่ตั้ง ผู้คน ลักษณะสภาพแวดล้อม หรือวัตถุ พร้อมด้วย Live Text ที่ช่วยให้ Spotlight สามารถค้นหาข้อความและลายมือในรูปภาพได้ และตอนนี้ Spotlight ยังสามารถค้นหารูปภาพบนเว็บ และแสดงผลลัพธ์ในแบบใหม่หมดที่มาพร้อมข้อมูลน่าสนใจสำหรับนักแสดง นักดนตรี รายการทีวี และภาพยนตร์ ส่วนการค้นหาผู้ติดต่อก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นโดยจะแสดงการสนทนาล่าสุด รูปภาพที่แชร์ หรือแม้แต่ตำแหน่งของบุคคลนั้นหากแชร์ผ่าน “ค้นหาของฉัน” ไว้
แอปรูปภาพได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดในส่วน “ความทรงจำ” ที่มาพร้อมลุคสดใหม่ อินเทอร์เฟซแบบโต้ตอบได้ และการผสานการทำงานเข้ากับ Apple Music ซึ่งใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อปรับแต่งการแนะนำเพลงที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับความทรงจำ
โฉมใหม่ของประสบการณ์การท่องเว็บด้วย Safari
Safari มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ช่วยให้เข้าถึงส่วนควบคุมได้ง่ายขึ้นด้วยมือเดียวและแสดงคอนเทนต์อย่างโดดเด่นกลางจอ เริ่มจากแถวของแถบเว็บไซต์แบบใหม่ที่กะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ และลอยอยู่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อให้ผู้ใช้สลับไปมาระหว่างแต่ละแถบได้ง่าย พร้อมกันนี้ยังมี Tab Groups ที่ให้ผู้ใช้บันทึกแถบต่างๆ เก็บไว้ แล้วกลับมาดูเมื่อไหร่ก็ได้อย่างสะดวกรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นบน iPhone, iPad หรือ Mac รวมถึงคุณสมบัติใหม่ๆ อย่างหน้าเริ่มต้นที่ปรับแต่งได้ และส่วนขยายเว็บของบริษัทอื่นบน iOS ซึ่งล้วนช่วยให้ Safari ทรงพลังและตอบโจทย์ของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
สำรวจโลกด้วยแอปแผนที่ของ Apple
Apple มุ่งมั่นที่จะสร้างแผนที่ที่ดีที่สุดในโลก และ iOS 15 ก็ยกระดับแผนที่ไปอีกขั้นด้วยวิธีใหม่เอี่ยมในการนำทางและสำรวจ เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดในเมืองที่ดีกว่าเดิมสำหรับเขตต่างๆ ย่านการค้า ระดับความสูง และอาคาร รวมถึงสีและป้ายถนนใหม่ แลนด์มาร์กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และโหมดเวลากลางคืนใหม่ที่มีแสงจันทร์ส่องสว่าง เรียกได้ว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการมองโลกผ่านแอปแผนที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
โดยแอปแผนที่มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่ในเมืองแบบ 3 มิติ ขณะนำทางด้วย iPhone หรือ CarPlay® ด้วยรายละเอียดบนท้องถนนแบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นและเข้าใจรายละเอียดสำคัญต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น อย่างเลนเลี้ยว เกาะกลาง ช่องทางจักรยาน และทางคนข้าม4 ส่วนผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็สามารถหาสถานีที่อยู่ใกล้ได้ง่ายขึ้น และปักหมุดสายที่ใช้ประจำได้ นอกจากนี้แอปแผนที่จะติดตามผู้ใช้ไปด้วยโดยอัตโนมัติตลอดเส้นทางขนส่งสาธารณะที่เลือกไว้ พร้อมกับแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อใกล้ถีงเวลาที่ต้องลงจากรถ และผู้ใช้ยังสามารถติดตามดูบน Apple Watch® ได้อีกด้วย ใน iOS 15 เพียงแค่ถือ iPhone ค้างไว้ตรงหน้า แอปแผนที่ก็จะระบุตำแหน่งของผู้ใช้อย่างแม่นยำ และแสดงเส้นทางการเดินพร้อมคำแนะนำอย่างละเอียดในรูปแบบความจริงเสริม
Apple Wallet พร้อมรองรับกุญแจใหม่ๆ และบัตรประจำตัวของรัฐ
Apple Wallet® เพิ่มการรองรับกุญแจหลายประเภทมากขึ้น ทำให้สามารถเข้าออกสถานที่ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ง่ายด้วยการแตะครั้งเดียว ในปีที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวกุญแจรถดิจิทัล และ BMW ก็เป็นผู้ผลิตรถรายแรกที่เปิดตัวกุญแจดิจิทัลของตัวเองให้ผู้ใช้แตะเพื่อเปิดล็อครถได้ มาในปีนี้ กุญแจรถดิจิทัลก็ดียิ่งกว่าเดิมด้วยการรองรับเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดล็อคและสตาร์ทรถรุ่นที่รองรับได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกมาเลย5 อีกทั้งยังสามารถใช้ iPhone เพื่อเปิดล็อคประตูบ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ห้องโรงแรมได้อีกด้วยโดยใช้เพียงกุญแจที่เก็บไว้ใน Wallet6
ภายในปีนี้ ลูกค้าในหลายๆ รัฐในสหรัฐอเมริกาที่เข้าร่วมจะสามารถเพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวของรัฐไว้ใน Wallet ได้ ขณะเดียวกัน Transportation Security Administration ก็อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อทำให้จุดตรวจความปลอดภัยที่สนามบินเป็นที่แรกที่ลูกค้าสามารถใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลใน Wallet ได้ โดยที่บัตรประจำตัวใน Wallet จะได้รับการเข้ารหัสและจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยใน Secure Element ซึ่งเป็นเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์เดียวกับที่ใช้รักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ Apple Pay®
คุณสมบัติใหม่ๆ ด้านความเป็นส่วนตัว
iOS 15 เพิ่มคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวอีกมากที่จะช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ และตอนนี้เมื่อมีการรู้จำคำพูดของ Siri บนอุปกรณ์ การประมวลผลเสียงคำขอที่พูดกับ Siri ทั้งหมดนั้นก็เกิดขึ้นบน iPhone ตั้งแต่เริ่มแรก7 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มาก และยังมีคุณสมบัติ “การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเมล” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ส่งทราบว่าอีเมลนั้นถูกเปิดอ่านแล้วหรือไม่ พร้อมกับซ่อนที่อยู่ IP เพื่อไม่ให้ผู้ส่งรู้ตำแหน่งของผู้ใช้ หรือใช้ที่อยู่ IP นั้นเพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวผู้ใช้ ส่วน “รายงานความเป็นส่วนตัวของแอป” จะแสดงภาพรวมว่าแอปใช้สิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง รูปภาพ กล้อง ไมโครโฟน และรายชื่อตามที่ผู้ใช้อนุญาตอย่างไรบ้างในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และมีการติดต่อโดเมนอื่นใดบ้าง8
แอปสภาพอากาศและโน้ตโฉมใหม่
แอปสภาพอากาศมาพร้อมกราฟิกแสดงข้อมูลสภาพอากาศที่มีมากยิ่งขึ้น รวมถึงแผนที่แบบเต็มหน้าจอ และการจัดเลย์เอาท์แบบไดนามิกที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศขณะนั้น พร้อมกันนี้ยังมีภาพพื้นหลังเคลื่อนไหวที่ออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ซึ่งจะแสดงตำแหน่งของดวงอาทิตย์รวมถึงปริมาณฝนได้แม่นยำยิ่งขึ้น และมีการแจ้งเตือนเมื่อฝนหรือหิมะเริ่มตกหรือหยุดตกด้วย
แอปโน้ตเพิ่มแท็กที่ผู้ใช้สร้างเองได้ ซึ่งจะช่วยให้จัดประเภทโน้ตได้ง่ายและรวดเร็ว และสมาชิกของโน้ตที่แชร์ไว้สามารถใช้การกล่าวถึงเพื่อแจ้งให้อีกคนทราบเกี่ยวกับการอัปเดตที่สำคัญได้ มุมมอง “กิจกรรม” ใหม่แสดงประวัติการแก้ไขล่าสุดในโน้ตที่แชร์ไว้
อีกหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจ
- Siri เพิ่ม Announce Notifications บน AirPods® ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์สิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้เพียงแค่บอก Siri และยังทำอะไรๆ ได้อีกมากมาย
- Shared with You ทำงานทั่วทั้งระบบเพื่อหาบทความ เพลง รายการทีวี รูปภาพ และอื่นๆ ที่แชร์ไว้ในการสนทนาของแอปข้อความ และนำมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นในแอปอย่างรูปภาพ, Safari, Apple News®, เพลง, พ็อดคาสท์ และ Apple TV อย่างสะดวกสบาย ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สอดคล้องกับบริบทได้ง่ายและรวดเร็ว
- iCloud+ มีครบทุกอย่างที่ผู้ใช้ชื่นชอบเกี่ยวกับ iCloud® เสริมด้วยคุณสมบัติระดับพรีเมียมใหม่ๆ เช่น Hide My Email, การรองรับ HomeKit® Secure Video ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น และบริการใหม่สุดล้ำเพื่อความเป็นส่วนตัวทางอินเทอร์เน็ตในชื่อ iCloud Private Relay โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม9 สมาชิก iCloud ปัจจุบันจะได้รับการอัปเกรดเป็น iCloud+ โดยอัตโนมัติภายในปีนี้ และผู้ใช้สามารถแชร์แผนบริการ iCloud+ ทุกแบบกับสมาชิกกลุ่มการแชร์กันในครอบครัวได้ เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติใหม่ๆ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และประสบการณ์การใช้งานอันเหนือชั้นที่มาพร้อมกับบริการนี้
- แอปสุขภาพมีแถบการแชร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลสุขภาพกับครอบครัว ผู้ดูแล หรือทีมผู้ดูแล พร้อมด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มที่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับค่าสุขภาพส่วนตัวต่างๆ อย่างมีความหมายและมุ่งเน้นพัฒนาในด้านนั้นได้ และยังมี Walking Steadiness ซึ่งเป็นค่าการวัดใหม่ที่จะส่งเสริมให้ผู้คนหันมาตั้งใจจัดการกับความเสี่ยงในการล้มอย่างจริงจัง
- วันนี้ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม HomeKit สามารถใส่คุณสมบัติ “หวัดดี Siri” ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อให้ลูกค้าสามารถพูดคุยโต้ตอบกับ Siri บนอุปกรณ์ของบริษัทอื่นได้ โดยอุปกรณ์เสริมที่รองรับ “หวัดดี Siri” จะส่งต่อคำขอผ่านทาง HomePod® หรือ HomePod mini™ และจะรองรับคุณสมบัติต่างๆ เช่น Personal Requests, Intercom, นาฬิกานับถอยหลัง และนาฬิกาปลุก และผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมสามารถทำงานร่วมกับ Apple เพื่อผนวกรวม Siri เข้ากับอุปกรณ์เสริมของตนได้ทันทีตั้งแต่วันนี้
- “ค้นหาของฉัน“ มาพร้อมความสามารถใหม่ๆ ที่จะช่วยระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ที่ถูกปิดเครื่องหรือล้างข้อมูล รวมถึงการสตรีมตำแหน่งที่ตั้งแบบสดๆ สำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ ที่เลือกจะแชร์ตำแหน่งของตัวเอง นอกจากนี้ยังมี Separation Alerts ที่จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบหากลืม AirTag™, อุปกรณ์ Apple หรืออุปกรณ์เสริมที่ใช้เครือข่ายค้นหาของฉันทิ้งไว้ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และวันนี้เครือข่ายค้นหาของฉันยังรองรับ AirPods Pro® และ AirPods Max™ อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีวิดเจ็ต “ค้นหาของฉัน” ที่ให้ผู้ใช้เหลือบดูตำแหน่งได้โดยตรงจากหน้าจอโฮม
- แอปแปลภาษาเพิ่มคุณสมบัติ Live Translate ใหม่ที่จะทำให้การสนทนาต่างภาษามีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยการแปลภาษาสำหรับทั้งระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลข้อความที่ไหนก็ได้บน iPhone
- วันนี้แอป Apple TV เพิ่มแถวใหม่ในชื่อ “For All of You” ซึ่งจะแสดงคอลเลกชั่นรายการและภาพยนตร์ตามความสนใจของคนที่เลือกไว้หรือของทั้งครอบครัว ซึ่งเหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งบ้าน
- การตั้งค่า iPhone เครื่องใหม่ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มใช้งาน iPhone ได้ราบรื่นไม่มีสะดุดยิ่งกว่าที่เคย โดยที่ผู้ใช้ iPhone อยู่แล้วสามารถสำรองข้อมูลจากเครื่องเดิมไว้ใน iCloud ชั่วคราว ถึงแม้จะไม่ได้สมัครสมาชิกไว้ แล้วถ่ายโอนข้อมูลมายังเครื่องใหม่ได้ง่ายๆ และสำหรับผู้ที่เปลี่ยนมาใช้เป็น iPhone เป็นครั้งแรก ก็มีการปรับปรุงประสบการณ์ “ย้ายไปยัง iOS” ให้สามารถถ่ายโอนอัลบั้มรูป ไฟล์ โฟลเดอร์ และการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงมาได้ง่ายๆ เพื่อให้รู้สึกว่า iPhone นั้นเป็นเครื่องของตัวเองตั้งแต่เริ่มใช้
- การช่วยการเข้าถึงทั่วทั้ง iPhone ขยายขีดความสามารถด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับ VoiceOver ที่ให้ผู้ใช้เรียนรู้รายละเอียดได้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผู้คน ข้อความ ข้อมูลในตาราง และวัตถุอื่นๆ ในภาพ และเพื่อรองรับความหลากหลายทางระบบประสาท ก็มีการเพิ่มเสียงพื้นหลังใหม่ที่ช่วยลดการรบกวน และสำหรับผู้ที่หูหนวกหรือหูตึง Made for iPhone ก็จะรองรับเครื่องช่วยฟังแบบสองทิศทางใหม่ด้วย นอกจากนี้ยังมี Sound Actions สำหรับปรับแต่งการควบคุมสวิตช์ให้ทำงานกับเสียงของปากได้ และวันนี้ผู้ใช้ก็สามารถปรับแต่งการแสดงผลและขนาดข้อความในแต่ละแอปให้ต่างกันได้แล้ว Apple ยังเพิ่มการรองรับการตรวจสมรรถภาพการได้ยินจากแผนภูมิแสดงผลทดสอบการได้ยินที่อิมพอร์ตเข้ามาให้กับคุณสมบัติ “การช่วยปรับหูฟัง” หรือ Headphone Accommodations อีกด้วย
ดูต่อได้ที่ : https://www.apple.com/th/newsroom/