เริ่มต้นปีใหม่พาไปเสพย์งานศิลป์ที่นิทรรศการ Venus In The Shell โดยยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล

ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล จิตรกรภาพประกอบที่มีชื่อเสียงระดับสากลมีความตั้งใจที่จะนำเสนอแนวคิดตำนานของวีนัส ผสานกับการตีความ ความรัก ความงาม ความรู้สึก และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ผ่านนิทรรศการ “Venus in the Shell” โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด สี่องก์ เหมือนเดินเข้าไปในเปลือกหอย ที่ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ได้แก่ ‘Forbidden Flower’
‘Moonlight Dive‘ ‘Mandragora in the vase’ และ ‘The Wanderer’

ซึ่งแต่ละส่วนของนิทรรศการถูกตีความถึงความเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้ ที่ทุกคนอาจจะต้องพบเจอกับความเปราะบางของจิตใจ ความรัก ความโกรธ ความผิดหวัง ความสับสน ความอิจฉาริษยา ความสว่างสดใส หรือแม้กระทั่งความมืดมด และนี่คือธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ที่ เธอต้องต้องการทำความรู้จักผ่านตำนานของเทพเจ้ากรีกอย่างเทพีวีนัสก็ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ ที่มีทั้งด้านดี และไม่ดี สวยงาม และมืดหม่น แม้ผู้คน จะมองว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกถึงความ ‘ไม่สมบูรณ์พร้อม’ ของชีวิต แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้บ่งบอกถึงความงาม และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นปัจเจกเช่นกัน

องก์ที่ 1 ยินดีต้อนรับสู่ Venus in the Shell

ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้พาคุณเข้าไปดูภายในโรงละครเปลือกหอยของฉัน

ปรกติคุณจะมองเห็นฉันจากภายนอกเท่านั้น เพราะฉันไม่ค่อยเปิดม่านเชิญใครเข้ามาในที่ส่วนตัวของฉันหรอก

คุณอย่าเข้าใจผิดว่าฉันคือเทพีวีนัส ที่มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์

เพียงแต่เรามีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน  ฉันหมายถึง ทั้งคุณ ฉัน และ วีนัส

คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อมองไปรอบๆ สิงโตของฉันออกมาต้อนรับพวกคุณ

คุณคิดว่า มันดูน่าเกรงขาม สง่างาม  ดุดัน หรือมันเชื่องเหมือนแมวที่บ้านคุณหรือเปล่า

ส่วนทางนั้นก็มีเหล่านักรบมากมายฝึกฝนกระบวนท่าแปลกพิสดาร ด้วยท่าทางเข้มแข็ง และกล้าหาญ ช่างน่าประทับใจ นี่พวกเขาฝึกฝน กุณฑาลินี หรือ ชี่ กง ฉันก็ไม่อาจทราบได้

และที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือเหล่าเทพธิดาที่เป็นตัวแทนของความสมบูรณ์ ความดี พวกเธอช่างสวยงาม คุยเถียงฉันสิว่าเราต่างไม่หลงไหลในดีความงามนี้ ความดีงาม ที่เราต่างตกลงปลงใจ และใช้เป็นบรรทัดฐานของความเจริญตา เจริญใจ

มาสิ ฉันจะพาคุณไปพบกับความลับบางอย่าง

ทำตัวตามสบายให้เหมือนกับคุณเป็นเจ้าของโรงละครเปลือกหอยแห่งนี้

จินตนาการถึงบทบาท และการแสดงของคุณในแต่ละวัน

คุณแสดงได้สมบทบาท เข้าถึงความเป็นตัวคุณตามที่คุณเขียน

หรือ คุณอาจเลือกเล่นตามบทที่คนอื่นเขียนให้?

ฉันเชื่อว่าบทบาททั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นตัวฉัน และตัวคุณ

ชั้นไม่กล้าตัดสินคุณจากบทบาทที่คุณได้รับ และเช่นกันโปรดอย่าตัดสินตัวตนของฉัน

ด้วยบทบาทของคุณ

คุณกับฉันก็คงมีโลกอีกด้านหนึ่งเช่นกัน โลกหลังผ้าม่าน ที่ซ่อนเรื่องราวภายใต้เปลือกหอยนี้

ผ้าม่านที่ฉันเปิดออกไม่บ่อยครั้ง วันนี้เราจะเข้าไปพร้อมกัน

 

องก์ที่ 2: Forbidden Flower

เราต่างแอบซ่อนอีกโฉมหน้าเอาไว้ คุณคิดเหมือนฉันไหม

อย่างน้อยก็มีเรื่องหนึ่งที่เรามักไม่ค่อยนำมาพูดคุยกัน

งั้นเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของแมวน้อยก็แล้วกัน

แมวน้อยตัวเล็กน่ารัก ที่ดูสะอาด และละเมียดละไมกว่าแมวทั่วไป

ดูสิ… จะมีเจ้าแมวตัวไหนช่างดัจริตใส่ถุงเท้าสีเขียว เหมือนเจ้าแมวตัวนี้อีก!

เจ้าแมวน้อวตัวนี้ชอบดอกบัวมากๆ

เมื่อไรที่มันถือดอกบัวด้วยอุ้งเท้าของมัน

ผู้คนก็มักจะชื่นชมในความที่มันดูบริสุทธ์ผุดผ่องของมันเป็นอย่างมาก

จนกระทั้งวันหนึ่งเจ้าแมวก็เริ่มเกิดสงสัยว่า

“ถ้าฉันลองเอาดอกบัวนี้ไปวางไว้บนส่วนอื่นบนร่างกายจะเป็นอย่างไรนะ”

เจ้าเหมียวลองนั่งลงในท่าปรกติของแมว ท่าที่แมวนั่งกัน

มันลองเอาดอกบัววางไว้บนระหว่างขา  พร้อมกับเลียทำความสะอาด

แบบที่แมวทุกตัวเลีย มันดูเลียอย่างมีความสุข

คุณสงสัยเหมือนฉันไหมว่าดอกบัว

นี่มีรสชาติยังไง

มาถึงตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไร คุณรู้สึกกระอักกระอ่วน หรือ รู้สึกว่ามันน่าอายไหม

เจ้าแมวน้อยน่ารักยังดูบริสุทธ์ผุดผ่อง อยู่หรือเปล่า

แล้วดอกบัวที่เจ้าแมวเลียไปแล้วล่ะ คุณยังคิดว่าดอกบัวนี้ยังคงเป็นดอกบัวดอกเดิมอยู่ไหม

หรือว่าตอนนี้มันได้กลายเป็นดอกไม้ต้องห้ามไปแล้ว

องก์ที่ 3: Moonlight Dive

ในนี้อาจจะดูมืดไปสักนิด แต่ขอให้คุณมั่นใจว่ามันช่างปลอดภัยบนพาหนะนี้ เพราะเรามาด้วยสันติ

ม้าไม้เมืองทรอยมีไว้รบกับศัตรูให้ย่อยยับ แต่ยานบินสีฟ้า Phoebus จะช่วยส่องแสงเข้าไปภายในเงามืดใต้แสงจันทร์ เพื่อทำความรู้จักเหล่าอสูรกาย

ลองหลับตาลง จินตนาการว่าพวกเราอยู่บนยานอวกาศลำนี้ เดินทางเข้าไปในส่วนลึกในจิตใจ มันยากที่จะยอมรับว่าในใจของเรามีอสูรกายเหล่านี้ซ่อนอยู่ ทั้งความรัก ความเกลียด ความโกรธ

ความกลัว ความริษยา

โชคดีที่อสูรกายเหล่านี้ ชอบความเท่าเทียม พวกเราทุกคน ถึงได้รู้จักอสูรกายเหล่านี้เหมือนๆกัน

เชื่อว่าไม่ใช่แค่พวกเรา เพื่อนของเรา เพื่อนบ้าน เจ้านาย ลูกน้อง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คุณครู หรือแม้กระทั่งนักบวช คนรวย หรือคนจน ก็คงเคยผ่านการรู้จักอสูรกายเหล่านี้มาทุกคน

และขณะนี้พวกเราก็ยังคงอยู่ในสนามการต่อสู้ ของเหล่านักรบ และ อสูรกาย

ฉันคิดว่าพวกเราต่อสู้เพื่อเข้าใจ และทำความรู้จัก รับมือ และกำราบเหล่าอสูร

เปิดสัญญาณให้พวกมันรู้ว่า เรามาอย่างสันติ เราจะมีเวลาที่จะรู้จักพวกมันแต่ละตัวมากขึ้น

ใจดีกับตัวเราเอง และอสูรกายของเรา

รู้สึกสบายใจขึ้นไหม ไม่ใช่ แค่คุณและฉัน ไม่ใช่แค่คุณคนเดียว หรือฉันคนเดียว ที่ต้องต่อสู้กับ
อสูรกาย  เราต่างก็กำลังต่อสู้กับอสูรกายของเราไปพร้อมๆกัน

องก์ที่ 4: Mandragora in the Vase

ยิ่งพวกเราก้าวเข้าไปในส่วนลึกของโลกนี้มากเท่าไหร่ เราก็จะเห็นได้ว่า

มีอีกหลายสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา

 

มีอีกหลายอย่างที่พวกเราควบคุมไม่ได้ และสิ่งนั้นอาจจะควบคุม และจำกัดชีวิตของพวกเราด้วย

 

มีอีกเรื่องที่ฉันอยากจะเล่า หวังว่าคุณจะยังไม่เบื่อเรื่องเล่าของฉัน

ฉันเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ได้ทั้งวัน คุณจะออกไปดื่มน้ำสักแก้ว ทานแซนวิช

ซักคู่ถ้าคุณหิว แล้วมาฟังฉันพูดต่อก็ได้

 

เรื่องนี้เกี่ยวกับพืชไม้หม่นชวนพิศวง mandragora หรือ mandrake ชื่อมันเก๋ ใช่ไหมล่ะ!

 

ในเรื่องเล่า mandrake เป็นพืชที่รูปร่างคล้ายคน มันจะแผดเสียง

เวลาที่เราดึงมันขึ้นมาจากดิน เสียงนั้นทำให้คนที่ได้ยินตายได้เลยทีเดียว

 

mandrake ช่างเหมือนพวกเราในบางครั้ง มีทั้งด้านที่น่ากลัว และสวยงาม มีคุณประโยชน์เมื่ออยู่ถูกที่ และโดนลดทอนคุณค่า เมื่ออยู่ผิดที่ผิดทาง

 

เราต่างอยากเจริญเติบโต ขยายกิ่งก้านสาขา และทำประโยชน์ได้มากมาย แม้ว่าบางทีเราอาจจะแผดเสียงออกมาบ้างเวลาเราไม่พอใจ  แต่หลายๆครั้งเราไม่สามารถทำได้  เหมือนต้น mandrake ที่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในแจกัน แจกัน ที่มีคนเลือกพาเรามาจัดใส่ไว้

 

คุณเคยลองถามตัวเองไหมว่า “กี่ครั้งที่เราปล่อยให้กฎเกณฑ์ ประเพณี และค่านิยมทางสังคม หรือมาตรฐานที่สังคมวางไว้ มาลดทอนพื้นที่ของตัวคุณเอง กี่ความฝัน หรือความชื่นชอบของคุณที่ถูกทอดทิ้งไป เพียงเพราะเราได้ยินคำสบประมาทที่บั่นทอนจิตวิญญาณของเรา”

ลองมองไปที่เจ้า mandrake อีกครั้ง คุณว่าสถานะการณ์ของมันเหมือนพวกเราในตอนนี้ไหม

องก์ที่ 5: The Wanderer

ขอแสดงความยินดีด้วย คุณมาถึงส่วนสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนี้แล้ว

ฉันก็เริ่มหิวน้ำนิดๆแล้วเหมือนกัน ขอวิ่งไปจิบน้ำซักสามนาที

หลังจากที่คุณเดินสำรวจภายในเปลือกหอยนี้ด้วยกัน คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

ตื่นเต้น เหนื่อยล้า ทุกข์ หรือว่าสุขใจ ?

 

โอ้…..ดูเหมือนว่าพวกเราก็จะมีปมในใจ ที่มักทำให้เรารู้สึก แสบคันไปทุกครั้งที่คิดถึง

อะไรที่ทำให้ใจคุณหม่นหมองกัน ?

ลืมมันไปเสียเถอะ! “เวลาจะช่วยให้คุยลืม และให้อภัยคนที่เคยทำร้ายคุณ”

จงประนีประนอม การให้อภัยคือแก่นแท้ของความบิสุทธ์ดีงาม !

จงรักศัตรูของคุณ!

 

คุณเคยได้ยินประโยคพวกนี้เหมือนฉันไหม

 

เพื่อจะบำเพ็ญเพียรเป็นมนุษย์

โรงเรียนได้สอนให้เจ้าปลาทองตัวกลม กระปุกลุ๊ก รู้จักการให้อภัย และปล่อยวาง ด้วยการ

“ ลืม ลืม มันไป “  คุณครูของเจ้าปลาทองต่างก็คิดว่ามันเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลืมอยู่แล้ว

เพียงแค่สามวินาที ความแค้นก็ดับสลาย มลายสิ้น เจ้าปลาทอง เจ้าสิ่งมีชิวิตที่แสนโชคดี

 

แต่มันจริงหรือ ที่เจ้าปลาทองจะสามารถลืมทุกทุกความเจ็บปวดของมันได้  ?

คุณล่ะคิดว่าอย่างไร?

 

แล้วเจ้ากุ้งล็อบสเตอร์ ล่ะ ถ้าเวลาผ่านไปจะขี้ลืมเหมือนเจ้าปลาทองด้วยไหม

สุดท้ายแล้ว

เวลาก็ยังคงหมุนไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ต่างก็ถูกขับเคลื่อนไปไม่มีที่สิ้นสุด  เวลาเป็นสิ่งที่ช่างน่าแค้นใจบางทีฉันก็รู้สึกหมั่นไส้ที่เธอไม่แยแสใครเลย

บางทีก็รู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตเหมือนกับนักท่องเวลา ที่ออกพเนจร

เวลาเดินไปข้างหน้าแบบไม่สนใจนักพเนจร ไม่หยุดรอเวลาเราสะดุด ไม่ช่วยให้เราลืมเรื่องที่เราไม่ชอบ และเตือนเราทุกครั้งผ่าน facebook เวลาเดินเร็วทุกครั้งที่เรามีความสุข เดินช้าทุกครั้งที่เราช้ำใจ

การเดินทางไปกับเวลานี้ ฉันอยากเดินทางไปด้วยความเข้าใจ  เข้าใจในตัวฉันเอง

เพื่อที่วันหนึ่งฉันอาจจะเป็นอิสระจากเวลา

 

ส่วนตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ม่านจะปิดลงแล้ว  คุณสังเกตเห็นวีนัสไหม

เธออยู่ในเปลือกหอยนี้แหละ!

ความร่วมมือครั้งพิเศษก่อเกิดผลงานชวนค้นหาใน Venus in the shell

Moonlight Dive Mural Tile Art by COTTO X Phannapast : ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดเรื่องราวส่วนลึกชวนใคร่ครวญภายในจิตใจ นำเสนอผ่านผลงานในรูปแบบจิตรกรรมฝาผนังด้วยวัสดุกระเบื้องโมเสคที่สามารถเก็บรายละเอียดของลายเส้นและสีสันของผลงานได้อย่างแจ่มแจ้ง คมชัด และครบถ้วน

Goodrich Wallpaper for Venus in the Shell : ส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปินส่งผลงานผ่านพื้นภาพลายวอลเปเปอร์ แสดงลวดลายการออกแบบอย่างประณีตเก็บครบทุกองค์ประกอบผลงาน ให้ผู้เข้าชมได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของ Venus in the Shell อย่างเต็มสุนทรีย์

ร่วมเดินทางสู่โลกอีกฟากฝั่ง ท่ีคุณอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ในนิทรรศการ “Venus in the Shell” โดย ปัณพัท “ยูน” เตชเมธากุล
ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถเข้าชมนิทรรศการได้ฟรี
โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ River City BANGKOK Galleria ชั้น 2

อ่านบทสัมภาษณ์ :

คุยกับศิลปินไทยที่เคยร่วมงานกับ Gucci “ยูน-ปัณพัท” กับภาพวาด (ชีวิต) ที่ไม่เคยอยู่ในกรอบ

 

ติดตาม Jeab.com
Jeab.com มี LINE แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวไลฟ์สไตล์ทันสมัยสำหรับผู้หญิงยุคดิจิตอล ได้ทุกวันผ่าน LINE ID @jeabdotcom

UPSTERRR!

FASHION IMITATES LIFE, LIFE IMITATES ART.

No Comments Yet

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.