วันนี้ Jeab.com จะพาไปตะลุยแหล่งแฮงเอาท์แห่งใหม่สุดฮิปกลางใจเมืองอย่าง “My Kitchen” ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ คอมมูนิตี้ภายใต้คอนเซปต์ Eat Meet Mingle สำหรับฟู้ดเลิฟเวอร์ที่อยากหาประสบการณ์ใหม่ในการกินที่จะทำให้คุณตื่นเต้นและสนุกตั้งแต่เริ่มสั่งอาหาร
ภายในร้าน My Kitchen ตกแต่งด้วยโทนสีขาว ตัดกับกระจกใสขนาดใหญ่ที่ฉายภาพพาโนราม่าของกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับเป็นจุดนัดหมายตอนกลางวันสำหรับคนทำงาน หรือมีตติ้งสำคัญ เพราะมีโซน Private Room ให้ใช้บริการ
แต่เมื่อหลังพระอาทิตย์ตกดิน My Kitchen ถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นที่แฮงเอาท์สุดเทรนดี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยแสงไฟวิบวับของลูกบอลดิสโก้ที่คลอเคล้ากับดนตรีจังหวะมันๆ จากดีเจชั้นนำ รวมถึงศิลปินชื่อดังที่มาเปิดมินิคอนเสิร์ตในโอกาสพิเศษอีกด้วย
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ My Kitchen คือการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในร้าน ตั้งแต่การสั่งอาหารง่ายๆ ผ่านแทบเล็ต รวมถึงการจ่ายเงินที่จบทุกอย่างด้วยปลายนิ้ว
ไฮไลต์สำคัญที่สุดของ My Kitchen จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากร้านอาหารชื่อดัง 5 ร้านและ 1 คาเฟ่สุดชิคที่มารวมตัวกันเพื่อให้ได้ลิ้มลองเมนูต่างๆ หลากหลายแนว ทั้งไทย อินเตอร์ ญี่ปุ่น รวมถึงขนมหวาน
1. CAFÉ CHILLI อาหารอีสานสุดอินดี้
ร้านอาหารอีสานที่หยิบเอาเมนูที่เราคุ้นเคยมายกระดับให้อินเตอร์ด้วยวัตถุดิบและวิธีการปรุงระดับพรีเมี่ยม แต่ยังคงความแซ่บแบบออริจินัลไว้ โดยเมนูแรกที่มาแล้วต้องห้ามพลาดคือ ต้มแซ่บหมูเด้ง (ราคา 230 บาท) ต้มแซ่บรสจัดถึงเครื่องที่เข้ากันได้ดีกับหมูเด้งเนื้อนุ่ม สั่งมาทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองแซ่บ
เมนูต่อมา เช็คอินที่ร้านอาหารอีสานแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะสั่งเมนูส้มตำ ส้มตำข้าวโพด-ข้าวเหนียวทอด (ราคา 140 บาท) ข้าวโพดหนึบหนับคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน ทานคู่กับข้าวเหนียวทอดที่ห่อด้วยปอเปี๊ยะ ได้รสชาติที่แปลกใหม่ที่อร่อย หรือจะสั่งมาทานกับ ไก่ย่างขมิ้น (ราคา 250 บาท) ก็เข้ากันเป็นที่สุด
ปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์ไทยๆ อย่าง ไอศกรีมกะทิสดพร้อมเครื่องม้านิลมังกร (ราคา 130 บาท) ไอศกรีมกะทิสดหวานมันเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียง 8 อย่าง ได้แก่ ข้าวเหนียว ฟักทองเชื่อม ลอดช่อง ทับทิมกรอบ ข้าวโพด ลูกชิด ซ่าหริ่ม และเฉาก๊วย
2. NARA อาหารไทยรสชาติละเมียดละไม
อีกหนึ่งร้านอาหารไทยใน My Kitchen ที่มีอาหารไทยหลากหลายภาคมาให้ได้ลิ้มลอง โดดเด่นด้วยการปรุงที่พิถีพิถัน และรสชาติที่อร่อยถูกปากทั้งคนไทยและต่างชาติ
เมนูแรกที่ชวนน้ำลายไหล คือเมนูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาอย่าง ข้าวผัดปลาทู ปลาทูทอดตัวใหญ่เสิร์ฟพร้อมกับข้าวผัดและเครื่องเคียงหลากชนิด เช่น มะเขือยาวชุบแป้งทอด ไข่ต้ม ผักลวก และหมูฝอย
อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ ขนมจีนปู (ราคา 150) ที่เสิร์ฟในปิ่นโตมาพร้อมกับขนมจีนและผักต่างๆ รสชาติของขนมจีนนั้นกลมกล่อม กินแล้วต้องติดใจ
ปิดท้ายด้วยเมนูสุดเฮลตี้อย่าง ผัดไทยไดเอท (135 บาท) ที่ใช้เส้นมะละกอผัดแทนเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่ยังคงรสชาติผัดไทยไว้อย่างครบเครื่อง เป็นเมนูแคลอรี่เบาๆ ที่อร่อยไม่แพ้ใคร
3. เมนู East Meets West ที่ KUPPADELI
ร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีชื่อเสียงเรื่องกาแฟคุณภาพให้ชิมตั้งแต่ House Blend จนถึงเมล็ดกาแฟออร์แกนิก แต่ที่เราจะพาไปชิมคือเมนูบรันช์ที่มีทั้งเมนูอาหารฝรั่งแบบคลาสสิก รวมถึงเมนูที่ผสมผสานความเป็นเอเชียเข้าไป
เริ่มต้นด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Pumpkin & Asparagus Salad (ราคา 180 บาท) สลัดฟักทองกับหน่อไม้ฝรั่งที่คลุกเคล้ากับน้ำสลัดรสชาติเยี่ยม โรยด้วยชีสแบบฟินๆ
หรือจะลิ้มลองซุปอุ่นๆ สไตล์ฝรั่งเศสอย่าง French Onion Soup (ราคา 130 บาท) ซุปหัวหอมรสชาติกลมกล่อมทานกับขนมปังและชีสที่ชิมแล้วต้องติดใจอย่างแน่นอน
ส่วนคนที่อยากลิ้มลองเมนูสไตล์อิตาเลียน ก็ต้องห้ามพลาดกับพิซซ่าที่อบใหม่ๆ จากเตา Bacon & Egg Pizza (ราคา 265 บาท) พิซซ่าหน้าเบคอนและไข่ที่เข้ากับแป้งพิซซ่ากรอบหอมกรุ่น หรือถ้าอยากลิ้มลองความแปลกใหม่ ก็อย่าลืมที่จะกดสั่ง Sai Oui Pizza พิซซ่าหน้าไส้อั่ว ที่ดึงจุดเด่นของอาหารอิตาเลียนให้เข้ากับอาหารไทยได้อย่างลงตัว
4. อาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่ MAN FU YUAN
เอาใจคนรักอาหารจีนกับร้าน MAN FU YUAN ที่เสิร์ฟเมนูสไตล์กวางตุ้งแท้ๆ อาจทำให้คุณฟินกับเมนูต่างๆ เช่น หมูกรอบ (ราคา 265 บาท) เนื้อแน่นหนังกรอบ ชิ้นเดียวไม่พอ หมูแดงอบน้ำผึ้ง ที่อร่อยหวานละมุนลิ้น และ เป็ดอบใบชา (ราคา 350 บาท) ที่เนื้อแน่นแต่นุ่มละลายในปาก
นอกจากนี้ยังมี เต้าหู้ทอดพริกเกลือ เต้าหู้ทอดด้วยไฟอ่อนๆ คั่วกับพริกและเกลือจนหอม เป็นเมนูทานเล่นที่อร่อยไม่แพ้กัน
5. อาหารญี่ปุ่นสดใหม่ที่ YUZU BY YUUTARO
ที่ My Kitchen มีร้านอาหารญี่ปุ่นจาก Yuutaro มาเปิดสาขาใหม่ YUZU BY YUUTARO ที่ยังคงความสด สะอาด และรสชาติแท้ๆ แบบญี่ปุ่น โดยเมนูเด็ดเมนูแรกที่คนรักปลาดิบต้องตาลุกวาว กับ Sashimi Selection A (ราคา 1,600 บาท) เซ็ตซาซิมิกับเนื้อปลา 7 ชนิดที่มีรสชาติและความสดเหนือคำบรรยาย
หรือถ้าอยากลองเมนูข้าวปั้น Salmon Engawa Roll (ราคา 320 บาท) และ Yuba Salad Maki (ราคา 280 บาท) ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
6. BRIX DESSERT BAR คาเฟ่สุดคูล
ไม่เพียงแค่จัดเต็มเรื่องอาหารเท่านั้น แต่ My Kitchen ยังมี BRIX DESSERT BAR คาเฟ่คูลๆ พร้อมเสิร์ฟเบเกอรี่และเครื่องดื่มอีกด้วย สามารถเข้ามาจิบกาแฟก่อนประชุมสำคัญ หรือจะนั่งจิบม็อกเทลแบบชิลล์ๆ ทั้งวัน ส่วนพอกลางคืนก็ออร์เดอร์ค็อกเทลได้
เมนูขนมหวาน มาแล้วก็ไม่ควรพลาดซิกเนเจอร์อย่าง Brix Box – Chocolate (ราคา 265 บาท) โท้สสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ราดช็อกโกแลต เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา 2 ลูก และผลเบอรี่ รสชาติหวานกลมกล่อมกำลังดี
ส่วนอีกเมนูก็อร่อยไม่แพ้กัน Hotto Keiki Original (ราคา 210 บาท) แพนเค้กซูเฟล่เสิร์ฟในกระทะอุ่นๆ เพิ่มความฟินด้วยน้ำผึ้ง ทานคู่กันกับไอศกรีมวานิลลาและกล้วย โรยด้วยครัมเบิ้ลกรุบกรอบ
ปิดท้ายด้วยเมนูเย็นๆ Lychee Raspberry Granita ไอศกรีมโปะทับด้วยน้ำแข็งไสรสลิ้นจี่ เสิร์ฟคู่กับผลราสพ์เบอรี่สดๆ ยิ่งกินยิ่งฟิน ยิ่งกินยิ่งติดใจ
นอกจากบรรยากาศดีๆ เมนูอาหารอร่อยๆ แล้ว ที่ My Kitchen ยังมีพื้นที่ส่วน Workshop ที่สามารถใช้บริการจัดกิจกรรมทำอาหาร หรือเราสามารถยืมเป็นครัวเพื่อประกอบอาหารเมนูพิเศษได้อีกด้วย ตอบโจทย์ความเป็น The Social Dining Experience อย่างแท้จริง โดย My Kitchen เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Siam Discovery
Copyright © Jeab.com