แฟล็กชิพสโตร์เป็นสัญลักษณ์ของมหานครที่มีความพิเศษกว่าสาขาอื่น รวมคอลเลกชันทุกแบบทุกรุ่นอย่างครบครัน พื้นที่ร้านมีขนาดใหญ่กว้างขวาง และให้บริการแบบเต็มรูปแบบ อีกทั้งแฟล็กชิพสโตร์ของหลากหลายแบรนด์ก็เป็นสาขาแรกและต้นแบบของประเทศอีกด้วย หากนึกถึงแฟล็กชิพสโตร์ หลายๆ คนคงนึกถึงถนนอ๊อกฟอร์ด (Oxford Road) ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ฟิฟธ์ อเวนิว (Fifth Avenue) ที่รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือหากเป็นทวีปเอเชียก็คงเป็นถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road) ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถนนเหล่านี้ถือเป็นสวรรค์ของนักช้อปในทุกฤดูกาล ด้วยทำเลที่ดี
มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้แฟล็กชิพสโตร์ของหลากหลายแบรนด์จึงเลือกเปิดบริการอยู่บนถนนเหล่านี้ ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ และยังมีภัตตาคาร ร้านอาหาร ห้างค้าปลีก โรงแรม และแหล่งบันเทิงต่างๆ อีกมากมายให้ได้เพลิดเพลินในทุกรูปแบบอย่างเต็มอารมณ์
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนมากที่สุดในโลก ซึ่งหากเปรียบเทียบย่านในประเทศไทยกับถนนเหล่านั้นคงหนีไม่พ้น ย่านราชประสงค์ เพราะเป็นศูนย์กลางที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ รวมสินค้าหลากหลายมากมายจากแบรนด์ชั้นนำ และให้บริการแบบครบวงจร จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “The Heart of Bangkok” มีความพร้อมในเรื่องของโครงสร้าง ทั้งห้างสรรพสินค้าที่หลากหลาย โรงแรมระดับ 5 ดาวมากมาย ร้านอาหารชั้นนำ ฯลฯ อีกทั้งยังมีผู้คนสัญจรอย่างพลุกพล่านและบริการนักท่องเที่ยวกว่า 600,000 คนต่อวัน สามารถเดินไปยังร้านต่อร้านอย่างง่ายดายและสะดวกสบาย
ด้วยทางเดินเชื่อมต่อ 4 ทิศทาง “ราชประสงค์วอล์ก – R Walk” ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติสามารถช้อปได้เต็มที่โดยไม่ต้องเดินทางไกลและประสบกับการจราจรที่ติดขัด หลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 50 แบรนด์จึงเลือกลงทุนเปิดแฟล็กชิพสโตร์ในย่านราชประสงค์ วันนี้ย่านราชประสงค์ขอแนะนำแฟล็กชิพสโตร์ 9 ร้านน่าช้อปที่มั่นใจว่าเข้าไปแล้วจะต้องช้อปกันเพลินจนลืมเวลาอย่างแน่นอน ที่สำคัญไม่ต้องบินไปช้อปไกลถึงต่างประเทศอีกด้วย
เปิดโผ 9 แฟล็กชิพสโตร์ เอาใจนักท่องเที่ยว ณ ย่านราชประสงค์
• ไลก้า สโตร์ แบงค็อก (Leica Store Bangkok) ณ เกษร วิลเลจ เป็นพื้นที่สำหรับคนชื่นชอบถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ ไลก้าได้เปิดแฟล็กชิพสโตร์ที่ย่านราชประสงค์เพราะอยู่ใจกลางเมืองพร้อมทั้งยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม ทำให้เดินทางสะดวกสบาย ซึ่งตรงกับเป้าหมายของแบรนด์ที่ต้องการให้ ไลก้า สโตร์ แบงค็อก แห่งนี้เป็นคอมมูนิตี้ของคนชื่นชอบแบรนด์ไลก้า นอกเหนือจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์กล้องและอุปกรณ์กล้อง สิ่งที่ทำให้สาขานี้โดดเด่น คือไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงงานภาพถ่ายที่เปิดโอกาสให้ช่างภาพจากทั่วมุมโลกได้แสดงผลงานอีกด้วย อีกทั้งยังมี ไลก้า อะคาเดมี (Leica Akademie) หรือเวิร์คช็อปการถ่ายภาพสำหรับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ไลก้า ซึ่งจะได้เรียนรู้ถึงเทคนิคต่างๆ ตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นไปจนถึงระดับแอดวานซ์ โดยช่างภาพมืออาชีพ และไลก้า สโตร์ แบงค็อกแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์บริการแห่งเดียวของแบรนด์ไลก้าในประเทศไทยที่มีผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่ที่ร้านอีกด้วย ซึ่งแกลเลอรีแห่งนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ต่างจาก ไลก้า แกลเลอรี ที่อื่นเนื่องจากมีดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็นไทยโมเดิร์นและความเรียบหรูคลาสสิกเข้าด้วยกัน การตกแต่งและวัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมือนเรือนไทย
พิกัด: เกษรวิลเลจ ชั้น 2 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-656-1102
• ปัญญ์ปุริ เวลเนส (PAÑPURI Wellness) ณ เกษร ทาวเวอร์ ออนเซนที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ย่านราชประสงค์
ที่ผสมผสานผลิตภัณฑ์และบริการจากธรรมชาติเข้ากับศาสตร์ของการดูแลสุขภาพแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยความมุ่งมั่นของปัญญ์ปุริที่เชื่อว่าสุขภาพที่ดีต้องมาจากภายใน ปัญญ์ปุริ เวลเนส จึงเป็นสถานที่ที่นำเสนอความผ่อนคลายเพื่อสร้างสมดุลทั้งภายในและภายนอก พร้อมมุ่งบรรเทาปัญหาที่คนเมืองต้องเผชิญอย่างความเครียด นอนไม่หลับ ความเหนื่อยล้า และมลภาวะรอบตัว ดังนั้นเมื่อคุณได้มาเยือนปัญญ์ปุริ เวลเนส ก้าวแรกที่คุณจะได้สัมผัสคือ ความสบายและผ่อนคลายอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมบริการเพื่อการดูแลร่างกายและจิตใจอย่างครบวงจร ทั้งบริการออนเซนที่ใหญ่ที่สุดในเส้นรถไฟฟ้ากรุงเทพมหานครที่มีทั้งแบบพับพลิคแยกชายและหญิง อย่างละ 5 บ่อ และออนเซนแบบส่วนตัว บริการออร์แกนิคสปา นวดผ่อนคลายด้วยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทั้งหมด บริการเวลเนสบาร์ นำเสนออาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และออร์แกนิค ที่อร่อย สวยงาม และจำกัดแคลอรี่ไม่เกิน 600 ต่อเมนู ปิดท้ายด้วยเวลเนส สตูดิโอ คลาสออกกำลังกายที่มีบริการทั้งโยคะ ไทชิ พิลาทิส และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีบริการเวลเนส โปรแกรม ในรูปแบบแพคเกจที่คุณสามารถเลือกเพื่อความผ่อนคลายในแบบของคุณ และยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปุริกลับไปดูแลตัวเองต่อที่บ้านได้อีกด้วย ปัญญ์ปุริ เวลเนส เลือกเปิดสาขาพิเศษนี้ที่ย่านราชประสงค์เนื่องจากเป็นย่านที่เพียบพร้อมด้วยการคมนาคมทุกรูปแบบ เหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจท่ามกลางชีวิตที่เร่งรีบและมลภาวะรอบตัว
พิกัด: เกษรทาวเวอร์ ชั้น 12 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-253-8899
• เอทโทร บูทีค (Etro Boutique) ณ เกษรวิลเลจ แบรนด์แฟชั่นระดับโลกสัญชาติอิตาเลียนที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 50 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 เลือกที่จะตั้งแฟล็กชิปสโตร์อยู่ที่เกษร วิลเลจ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยความโดดเด่นที่ผสานศิลปะ แฟชั่น และงานฝีมือตัดเย็บชั้นสูงเข้าไว้ด้วยกัน มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบให้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีได้เลือกสรร ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แว่นตา เข็มขัด ไปจนถึงน้ำหอมและเครื่องใช้ในบ้าน ลวดลายที่ถือเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมอย่างสูงสำหรับแบรนด์นี้คือลายลูกน้ำ (Paisley) ที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและความหมายอันลึกซึ้งและถือเป็นสัญลักษณ์ที่สามารถปกป้องจากภัยร้ายและเป็นเครื่องหมายของการคงอยู่อย่างนิรันดร์ เอทโทร บูทีค สาขานี้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นทุกแบบ หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่รุ่นคลาสสิกดั้งเดิม ไปจนถึงสินค้าหนังสีสันใหม่ที่เข้ามาในทุกซีซั่น เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอย่างจุใจ
พิกัด: เกษรวิลเลจ ชั้น G เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-656-1245
• ริโมว่า (RIMOWA) ณ เกษรวิลเลจ มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนพื้นที่ถึง 300 ตารางเมตร ณ ย่านราชประสงค์ จุดหมายด้านการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของไทย สาขานี้จึงเน้นการออกแบบมาจากไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของนักเดินทาง ภายในโดดเด่นด้วยกระจกรอบด้านที่ทำให้ดูมีมุมมองและมีมิติ อีกทั้งรวบรวมสินค้าไว้เกือบทุกคอลเลคชั่นอีกด้วย กระเป๋าเดินทางริโมว่าได้รับการยอมรับจากนักเดินทางทั่วโลกกว่า 80 ปี ในด้านคุณภาพ และดีไซน์พื้นผิว แบบกรู๊ฟไลน์ (Groove Line) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์คือ กระเป๋า “ริโมว่า” 1 ใบจะมี 1 รหัสไอดี พร้อมกับการนำวัสดุพิเศษจากอลูมิเนียม ที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน ให้ความโดดเด่น ด้วยพื้นผิวของ อลูมิเนียม และยังเป็นผู้นำในการคิดค้นวัสดุพิเศษที่เรียกว่า “โพลีคาร์บอเนต” มาใช้ในการผลิตกระเป๋าที่มีคุณสมบัติพิเศษในการยืดหยุ่นสูง สามารถป้องกันการสั่นสะเทือนได้อย่างดี เป็นเจ้าแรกของวงการกระเป๋าเดินทางโลก นักเดินทางทุกแบบทุกสไตล์จะต้องไม่มีพลาดอย่างแน่นอน
พิกัด: เกษรวิลเลจ ชั้น G เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-656-1422
• เมธธีค (Mettique) ณ เกษรวิลเลจ แบรนด์เครื่องหนังคุณภาพดีสัญชาติไทยน้องใหม่ที่กำลังมาแรง โดยงานทุกชิ้นที่ผลิตขึ้นมานั้น เป็นงานที่เย็บด้วยมือทั้งหมด 100% โดยไม่ใช้จักรใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นงานฝีมือแบรนด์ไทยหนึ่งเดียวในประเทศ พร้อมทั้งใช้หนังเเท้ในการผลิตทุกส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างภายในและวัสดุบุผิว หากมีอะไหล่อื่นก็จะนำมาหุ้มด้วยหนังอีกครั้งเพื่อให้เครื่องหนังมีความสวยงามและทนทานมากยิ่งขึ้น เมธธีคมีเครื่องหนังหลากหลายประเภท ทั้งกระเป๋าคลัทช์ กระเป๋าเอกสาร กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ ที่ใส่นามบัตร เคสใส่โทรศัพท์ไอโฟน หรือแม้กระทั่งกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ ฯลฯ พิเศษไปกว่านั้น เมธธีคมีความเอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่นำเอาเทคนิคงานฝีมืออันเก่าแก่ของอิตาลีมาใช้ เพื่อผลิตคอลเลคชั่นเครื่องหนังแบบไร้รอยตะเข็ม ทำให้มีความเรียบ โก้ และหรูหรา มีความประณีตและละเอียดอ่อนสูง อีกทั้งลูกค้ายังสามารถออกแบบกระเป๋าตามที่ตัวเองต้องการได้ด้วย ตั้งแต่การเลือกประเภทหนัง สีของหนัง แบบของผลิตภัณฑ์ และบริการปั๊มตัวอักษรย่อหรือชื่อลงบนเครื่องได้อีกด้วย
พิกัด: เกษรวิลเลจ ชั้น 2 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-656-1114
• อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ (Adidas Brand Centre) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ร้านอาดิดาสที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและแปซิฟิกบนพื้นที่กว่า 1,100 ตารางเมตร อัดแน่นด้วยนวัตกรรมสินค้ากีฬาและโซน product experience แนวดิจิตัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยคอนเซปต์ ‘Here To Create’ พร้อมให้ทุกคนได้มาลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกกำลังกายเพื่อเป็นการเพิ่มขีดจำกัดของความสนุกในการออกกำลังกาย พร้อมยกขบวนผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกีฬามาให้ทุกความต้องการ ทั้งฟุตบอล เทรนนิ่ง เทนนิส และบาสเก็ตบอล จุดไฮไลต์เด็ดที่สาขานี้มีไม่เหมือนที่อื่น คือ Sutu Wall โซนฟุตบอลอินเตอร์แอคทีฟ ให้ลูกค้าสวมสตั๊ดแล้วลองเตะลูกบอลเข้ากำแพงดิจิทัล; Run Lab ซึ่งเป็นโซนวิ่งเทรดมิลล์ที่นอกจากเอาไว้ลองรองเท้า ยังสามารถวิเคราะห์รูปเท้าเพื่อช่วยหารองเท้าที่เหมาะสมสำหรับรูปเท้าอีกด้วย; และ Print Screen ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการสกรีนชื่อนักบอลและเบอร์ลงบนเสื้อฟุตบอลที่ซื้อจากช็อป ความพิเศษยังไม่จบเพียงเท่านี้ สาขานี้ยังจำหน่ายสินค้า ‘Brand Centre Exclusive’ ที่จะมีขายที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์แห่งนี้แห่งเดียวเท่านั้น
พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-613-1490
• โค้ช (Coach) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นร้านสองชั้นที่มีความทันสมัย ดูหรูหรา และสวยงาม ด้วยคอนเซ็ปต์
โมเดิร์น ลักชัวรี่ มีพื้นที่กว้างและใหญ่ที่สุดและมีพื้นที่โชว์สินค้ามากที่สุดในประเทศไทย นับเป็นร้านแรกในประเทศที่เปิดเป็นไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบ มีสินค้าครบทุกแบบ ทุกสไตล์ ทุกรุ่น ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือเครื่องประดับต่างๆ สินค้าบางรุ่นที่เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นหรือเป็นคอลเล็คชันพิเศษที่เป็นการร่วมมือสร้างสรรค์ผลงานที่นำเข้าไม่กี่ชิ้นในเมืองไทย พิเศษไปกว่านั้นยังให้บริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วย Craftsmanship Bar แห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เพิ่มความเป็นตัวเองมากขึ้นและแสดงออกถึงสไตล์ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่โดยการปั้มลายโมโนแกรม ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ลงบนป้ายห้อยกระเป๋า
พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซนเอเทรียม เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-646-1881
• มูจิ (Muji) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นร้านที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและมีสินค้าพิเศษที่สามารถหาได้ที่สาขานี้เท่านั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “No Brand, Good Quality” มูจิสาขาเซ็นทรัลเวิลด์มีโซนสินค้าพิเศษ อาทิ ฟาวนด์ มูจิ (Found Muji) สินค้าท้องถิ่นจากแต่ละพื้นที่ทั่วโลก; มูจิ เลโบล์ (Muji Labo) เครื่องแต่งกายสำหรับบุรุษและสตรีที่เน้นความสบายและคล่องตัว เหมาะในการใช้ในชีวิตประจำวัน; รี มูจิ (ReMuji) ยึดบนแนวคิดวิถีแฟชั่นที่ยั่งยืน นำเอาคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสุดวินเทจของมูจิมาย้อมสีครามปรับโฉมใหม่; ดอยตุง (DOITUNG) ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นคุณภาพดี ช่วยส่งเสริมสนับสนุนสินค้าดอยตุงเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย; โต๊ะเครื่องแป้งจำลองที่ให้สุภาพสตรีได้ทดลองผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพดี; บริการพิเศษในการออกแบบวางผังเฟอร์นิเจอร์บ้านในรูปแบบ 3D โดยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถจำลองห้องให้ได้เหมือนจริง และบริการอื่นๆ อีกมากมาย การตกแต่งของร้านเป็นแนวมินิมอล ทำให้รู้สึกสบาย โล่ง และเป็นกันเอง ในอนาคตร้านมูจิสาขาเซ็นทรัลเวิลด์มีแผนที่จะขยายพื้นที่ในร้านเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดแสดงสินค้าให้มากขึ้น
พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-100-9999
• มารีเมกโกะ (Marimekko) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศฟินแลนด์ ยึดถือคติที่ว่า “Design is inspired by beautiful everyday life” ในการออกแบบ สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์แบบ Timeless Design ที่ไม่เหมือนใคร ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและความสนุกสนานตามแบบฉบับของแบรนด์ โดยร้านมารีเมกโกะที่เซ็นทรัลเวิลด์นั้นมีสินค้าทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ของสำหรับเด็ก ของแต่ง และสินค้ากลุ่มคลาสสิก โดยสินค้ากลุ่มนี้จะเป็นลายพิมพ์ที่ได้รับความนิยมตลอด รวมถึง ‘Unikko’ หรือ ลายดอกป็อปปี้ซึ่งเป็น Iconic Pattern นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์มารีเมกโกะ จุดเด่นที่สำคัญของร้าน แฟล็กชิพโสตร์แห่งนี้คือมี สินค้ามากมายหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร รวมถึงคอลเลคชั่นใหม่ๆ มีครบทุกรุ่น ทุกสี ทุกประเภท รับรองว่าถ้าได้เข้าไปเดินเลือกซื้อต้องสนุกเพลิดเพลินแน่นอน
พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซนเอเทรียม เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 252 9625
แฟลกชิปสโตร์ ทั้ง 9 ร้าน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเป็น world-class destinationของย่านราชประสงค์ ที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกต้องการมาเยือนมากที่สุด และก้าวขึ้นเป็นย่านแห่งไลฟ์สไตล์อันดับหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแฟลกชิปสโตร์อีกมากมาย อาทิ มินิโซ (Miniso) แม็กซ์ แอนด์ โค (Max & Co.) แพนดอร่า (Pandora) ฟอสซิล (Fossil) แคท คิดสตัน (Cath Kidston) และเอิบสปา (Erb Spa) ฯลฯ ไม่ว่าจะมากิน ดื่ม เที่ยว ก็ครบจบในที่เดียว ณ ย่านราชประสงค์ ที่พร้อมจะเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ให้แก่ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างสมบูรณ์แบบ
Source : Courtesy of RSTA