“ประเทศไทยอาจไม่ใช่ประเทศที่ดีที่สุด แต่เรามีพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลก” เป็นประโยคที่ฟังแล้วเห็นด้วยอย่างที่สุด พวกเราคนไทย โชคดีที่มีพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงงานหนักและทำเพื่อประชาชนมาโดยตลอด มีหลายสถานที่ที่พระองค์เสด็จไปริเริ่มโครงการพระราชดำริมากมาย ซึ่งเราเชื่อว่าหลายๆ คนอยากรู้และอยากตามรอยพระบาท ไปเที่ยวสถานที่เหล่านั้นกันบ้าง งานนี้ต้องขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ได้จัดทำหนังสือเรื่อง “70 เส้นทางตามรอยพระบาท” เพื่อแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ตามรอยพระบาทให้ประชาชนชาวไทยสามารถไปเที่ยวตามรอยรวมไปถึงได้ศึกษาเรื่องราวและโครงการพระราชดำริของพระองค์กันได้
“ไม่มีที่ใดในแผ่นดินไทยที่พระองค์เสด็จไปไม่ถึง”
-70 เส้นทางตามรอยพระบาท-
วันนี้ Jeab.com จึงได้คัด 9 สถานที่เที่ยวตามรอยพระบาท ที่มีธรรมชาติสวยงามให้ชมมาฝากกันค่ะ มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
1. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้เขียวขจี เหมาะกับการมาชมธรรมชาติ แวะสูดอากาศบริสุทธิ์แห่งนี้ ยังมีพื้นที่ของโครงการตามแนวพระราชดำริอยู่ด้วย เป็นแหล่งเรียนรู้การพัฒนาป่าไม้และเพาะชำกล้าไม้หายาก พื้นที่ในโครงการฯ มีแนวหินผาเป็นจุดชมวิวถึง 6 จุดสำคัญ ได้แก่ ผาไททานิค ผาพบรัก ผาบอกรัก ผาคู่รัก ผารักยืนยง และผาสลัดรัก สามารถยืนชมทิวทัศน์ผืนป่าเขียวชอุ่มได้ รวมไปถึงยังเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยผลิบาน
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
2. แก้มลิงหนองใหญ่ จังหวัดชุมพร
พื้นที่ธรรมชาติกว้างใหญ่แห่งชุมพร ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดให้สร้างเส้นทางเดินน้ำ เพื่อพักน้ำไว้ในแก้มลิง เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมใหญ่อย่างที่ชุมพรเคยประสบมาโดยตลอด ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ “แก้มลิง” ของพระองค์ ในพื้นที่นี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถไปเที่ยวชมธรรมชาติได้ มากมาย ทั้งชมนก ให้อาหารนก ชมพื้นที่เกษตรต่างๆ และการเดินข้ามสะพานไม้สู่อ่างเก็บน้ำ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามตลอดสองข้างทาง
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
3. ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวน) จังหวัดกระบี่
ไม่เพียงแต่ภาคเหนือของประเทศเท่านั้นที่จะมีแหล่งชมธรรมชาติ ชมดอกไม้สวยๆ ในภาคใต้ของบ้านเราก็มีเช่นกันนะคะ ในจังหวัดกระบี่ “ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวน)” คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ ความโดดเด่นของศูนย์ฯ ทำให้มีนักท่องเที่ยว แวะเวียนมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ เพราะที่นี่มีแปลงกล้วยไม้พื้นเมืองมากถึง 113 สายพันธุ์ ต้นดอกหน้าวัวแปลกตา กว่า 60 สายพันธุ์ และบรรดาเหล่าดอกไม้เมืองร้อนมากมาย หากได้มาจังหวัดกระบี่ นอกจากทะเลสวยๆ แล้ว การได้ชมดอกไม้นานาพันธุ์ในสถานที่แห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
4. ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง
พื้นที่ธรรมชาติที่เคยเป็นนแหล่งทำการเกษตรและประมงของชาวบ้านในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแสซึ่งมีสภาพเสื่อมโทรม ค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟูโดยเทศบาลตำบลปากน้ำประแส ร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับสมดุล ให้กับผืนป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดระยอง ให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าชายเลน พันธุ์ไม้หลายชนิด ที่โดดเด่นสุดๆ คงหนีไม่พ้นทุ่งโปรงทอง เป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยต้นโปรงใบสีเหลืองอร่าม ซึ่งเวลาที่แดดส่อง จะดูเป็นประกายสีเหลืองทองสวยงามมากทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
5. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก จังหวัดเชียงใหม่
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาแสวงหาธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ในโครงการหลวงตีนตก มีความลาดชันค่อนข้างสูง ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่ต้องตา ตรึงใจ เหมาะกับการพักผ่อนในช่วงวันหยุด มีสถานที่น่าสนใจภายในหลายแห่ง ทั้งวัดคันธาพฤกษา ที่เราสามารถไปชมสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ และโบสถ์ที่อยู่กลางน้ำสวยงามกันได้ บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านที่โด่งดังด้านโฮมสเตย์ ไปสัมผัสวิถีชีวิตและประเพณีพื้นบ้านได้อย่างใกล้ชิด เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
6. ภูเรือ จังหวัดเลย
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเลย ซึ่งในฤดูหนาวบางปี ที่มีอากาศเย็นจัด ก็จะเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง ในช่วงเดือนธันวาคม–มกราคม มีเทศกาลไม้ดอกเมืองหนาว และเทศกาลกินผักเมืองหนาว ในช่วงหน้าร้อน เมษายน-สิงหาคม ก็ยังมีดอกดาหลา หน้าวัว และปทุมมาให้ชม หรือจะชิมไม้ผลเมืองหนาว เช่น พลับ สาลี่ เกาลัดจีน หน่อไม้ไผ่หวาน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมอันดับต้นๆ ของไทย และยังเป็นสถานที่ที่สามารถมาได้ตลอดทั้งปี
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
7. ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดําริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
หลายคนคงคุ้นกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของแม่ฮ่องสอนอย่าง “ปางอุ๋ง” กันดี ซึ่งปางอุ๋ง เป็นเพียงหนึ่งในสถานที่ภายในศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริแห่งนี้ แต่ในศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองยังมีสถานที่ให้ชมธรรมชาติสวยงามมากมาย รวมทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับตามรอยพระบาท ยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพที่สำคัญอีกด้วย มีหลายจุดที่น่าไป ทั้งพระตำหนักปางตอง ชมเรือนประทับแรมไม้ 6 หลัง ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้บนไหล่เขา สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าปางตอง ชมสัตว์ป่าหาดูยากกว่า 30 ชนิด และ สถานีแปลงพันธุ์ไม้ดอก ชมเรือนเพาะชำต้นกล้าไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
8. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย จังหวัดชลบุรี
นอกจากเที่ยวชมท้องทะเลที่แสนสวยในอำเภอสัตหีบแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ทางทะเลแห่งแรกในประเทศไทย มีสถาปัตยกรรมที่วางตัวเรียงรายกันอย่างสวยงามบนเนินเขา มีจุดชมวิวดูทิวทัศน์สวยงามของท้องทะเลและให้ความรู้ นอกจากนี้หากมีเวลายังสามารถนั่งเรือข้ามเกาะไปเที่ยวเกาะแสมสารได้อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
9. โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี
หนึ่งโครงการ ในพระราชดำริ ศูนย์รวมพืชเศรษฐกิจ พัฒนา และส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมของ จังหวัดเพชรบุรี มีแปลงปลูกข้าวและพืชผักเศรษฐกิจหลากหลายชนิด อาทิ มันเทศ สับปะรด มะพร้าว มีฟาร์มเลี้ยง โคและไก่ ตลอดจนติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ซึ่งหากใครมาที่นี่ นอกจากจะได้ชมธรรมชาติ พื้นที่เกษตรแล้ว ยังสามารถเข้ามชมพระตำหนักทรงงาน ซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นแบบเรียบง่ายตามวิถีพอเพียงของในหลวงได้อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ ที่นี่
นอกจาก 9 เส้นทางสถานที่เที่ยวที่เราคัดมาฝากแล้ว ยังมีสถานที่เที่ยวตามรอยพระบาทอีกหลายเส้นทาง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ได้เปิดให้ดาวน์โหลดหนังสือ “70 เส้นทางตามรอยพระบาท” ฟรีกันด้วยนะคะ ไปดาวน์โหลดหรือชมเพิ่มเติมกันได้ ที่นี่ กันนะคะ