ถ้าพูดถึงช่อง Youtube ที่มาพร้อมสาระและไลฟ์สไตล์สุดชิค นำเสนอไลฟ์สไตล์ อสังหาริมทรัพย์สุด Luxury เชื่อว่าช่อง BoomTharis เป็นชื่อต้นๆ ที่อยู่ในลิสต์นั้น วันนี้ Jeab.com ก็ได้รับโอกาสสุดพิเศษ พูดคุยกับคุณบูม ธริศ เจ้าของช่อง BoomTharis ถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และล้วงลึกถึงเรื่องที่สาวๆ น่าจะอยากรู้ มุมมองความสัมพันธ์ ความรัก ที่น่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วอย่ารอช้า มาทำความรู้จักคุณบูม ธริศ ให้ดีกว่าเดิมกันเลย
ทำความรู้จักบูม ธริศ ในมุมชิลล์ๆ
คุณบูม หรือ นายธริศร ธรณวิกรัย ในที่นี้เราจะเรียกพี่บูม เพื่อบรรยากาศที่คุยง่ายสบายๆ พี่บูมเล่าว่า ตนเองจบจากคณะพาณิชยศาตร์ และ การบัญชี มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์หรือที่รู้จักในนาม BBA Chula เห็นเป็นหนุ่มเนี้ยบที่ดูมีมุมเครียดๆเยอะแบบนี้ เราเลยอยากทราบว่าชีวิตที่ดูเนี้ยบแบบนี้เวลาว่างเขาทำอะไร หรือมีความสนใจอะไรเป็นพิเศษ
พี่บูมตอบอย่างไม่ลังเลว่าจริงๆ แล้วเวลาว่างของเขาชอบผ่อนคลายด้วยการเล่นเกมส์ โดยเกมส์ที่สนใจก็หนีไม่พ้น Final Fantacy” เกมส์โปรดของหนุ่มๆ หลายๆ คน เมื่อเราถามว่าแล้ว Netfilx เรื่องล่าสุดที่ดูล่ะ พี่บูมตอบว่าเป็นเรื่อง “Parasite” และ “Cash Landing on You” (ที่โดนภรรยาบอกให้ดูด้วยนั้นเอง) หากเป็นโหมดหนังสือที่ให้ความสนใจก็เป็นโหมดพัฒนาตัวเอง พี่บูมยังเสริมอีกว่าเขาชอบอ่าน Wikipedia โดยในปัจจุบันเขาหาความรู้เพิ่มเติมผ่านทาง “Youtube” ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถหาความรู้ได้โดยไม่รู้จบ เราถามต่อถึงอาหารจานโปรดที่พี่บูมโปรดปราน พี่บูมตอบด้วยความเรียบง่าย ว่าอาหารจานโปรดของเขาคือ “แฮมเบอร์เกอร์” เพราะเขารู้สึกว่าเป็นอาหารที่กินง่าย ทั้งยังเป็นอาหารที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึง
คุยกับเจ้าพ่อ Youtube ทั้งทีไม่พูดถึงการทำ Youtube เลยก็ดูจะเหมือนมาเช็คอินไม่ถึงที่ เราเลยอยากรู้ว่ากว่าจะมาเป็นช่อง BoomTharis ในวันนี้มีความเป็นมายังไง ค้นหาสไตล์ของตัวเองเจอได้ยังไงและแรงบันดาลใจจากไหน
เริ่มต้นจากช่างภาพ Think of living สู่ช่อง BoomTharis
เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของช่อง BoomTharis ต้องเล่าว่าก่อนหน้านี้ คุณบูมได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานอยู่ที่ Think of living แต่เมื่อเดินทางมาถึง 5 ปีแล้วพบว่าเนื้อหาของ Think of living แคบไปเพราะส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านและคอนโด จากช่างภาพถ่ายภาพประกอบบทความจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ หล่อรวมให้เกิดช่อง Boomtharis ที่เริ่มต้นจากการไลฟ์สไตล์การถ่ายคลิปชีวิตส่วนตัว จนโด่งดังชั่วข้ามคืนจาการรีวิวคอนโดบนตึกมหาคร จากการเริ่มต้นทำเพียงคนเดียว ในปัจจุบันช่อง Boomtharis มีทีมงานมากฝีมือประมาณ 4-5 คน
เราถามต่อถึงสไตล์ของช่อง Boomtharis ว่าเจอตัวเองได้ยังไง คุณบูมเล่าให้ฟังว่า “ต้องลองทำไปก่อน เริ่มแรกอาจจะเริ่มจากการมั่ว และ เลียนแบบคอนเทนต์คนอื่น แต่เมื่อทำไปสักพักทำให้ทราบว่า เราเลียนแบบคนอื่นไม่ได้ เหมือนกับเวลาเราร้องเพลง ก็ต้องมีคนสอนเราร้องเพลง แต่สุดท้ายเราก็ร้องแบบคนที่สอนเราไม่ได้ โดยไอเดียการทำ Content ครึ่งหนึ่งมากจากไลฟ์สไตล์ของตัว ที่อยากนำออกมานำเสนอให้คนดูเห็นและรู้จัก ส่วนอีกครึ่งนึงมาจากส่วนที่เราพบเจอ อย่างคอนโด ร้อยล้าน เราก็ไม่ได้พบเจอบ่อยๆ เราจึงอยากหยิบออกมาเล่ามาเป็นคลิปต่างๆ เหมือนเราเจออะไรแล้วประทับใจแล้วคนดูน่าจะอยากรู้ มาเล่าในแบบของเรา ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นสไตล์ที่โดดเด่นของช่อง Boomtharis ที่นำเรื่องยากๆ ออกมาเล่าเป็นเรื่องง่ายๆได้”
เห็นงานเยอะขนาดนี้เราเลยถามต่อว่าคุณบูมบาลานซ์ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานยังไง คุณบูมตอบว่า “เป็นการจัดการเวลา แต่จริงๆแล้วที่เห็นสมาชิกครอบครัวมาโพล่ในคลิป เป็นการนำเอาชีวิตส่วนตัวและการบาลานซ์กัน ซึ่งทำให้ในครอบครัวสนิทกันมากกว่าเดิม อย่างคลิปรีวิวสตรอว์เบอรี่ ก็เป็นการเชิญทั้งครอบครัวมารีวิวด้วยกัน มาชิมไปด้วยกัน เหมือนกับเป็นงานกลุ่มที่้ต้องช่วยกันทำ มีการบ้านด้วยกันเป็นเหตุทำให้ทุกคนยิ่งสนิทกันเข้าไปอีก และนี่อาจจเป็นไดร์ทีทำให้ยังอยากทำคลิปอยู่
เมื่อเราคุยกันถึงเรื่องครอบครัวแล้วนั้น อดไม่ได้ที่จะถามถึง ‘คุณเจน’ ภรรยาสาวสวยของคุณบูม ที่คิดว่าสาวๆ น่าจะสนใจถึงไลฟ์สไตล์ของเขาไม่น้อย สังเกตได้จากคำค้นหาใน Google ที่เมื่อค้นหาคำว่า Boomtharis แล้วนั้นยังขึ้น keyword ว่า ‘บูม เจน’ อีก งานนี้ไม่รอช้า มาล้วงลึกคุยเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความรักของเขากันเลยดีกว่า
เริ่มปลูกต้นรักในรั้วมหาลัยกว่า 10 ปีก่อนเข้าสู่ประตูวิวาห์
เมื่อเข้าถึงเรื่องราวความรักในห้องนี้ก็ดูอบอวลด้วยกลิ่นความรักขึ้นมาทันที เมื่อเราถามว่าเจอกับคุณเจนได้อย่างไร คุณบูมเล่าให้ฟังว่า “เจนเป็นรุ่นน้องที่คณะ น้องเจนเป็นรุ่นน้องปี 1 ส่วนคุณบูมเป็นรุ่นน้องปี 2 ทำให้ได้เห็นหน้ากันจากการรับน้อง ทั้งยังเจอกันในช่วงระหว่างเรียนเพราะเรียนอยู่คณะเดียวกัน ภาคเดียวกัน รวมทั้งทางเจนยังมีเพื่อนๆอยู่คณะดนตรีจึงมีโอกาสได้รู้จักกันและเป็นแฟนกัน”
เล่าไปก็เขินไป เราเลยอยากรู้ว่า อะไรนะทำให้คุณเจนมัดใจคุณบูมได้ พี่บูมตอบอย่างไม่ลังเลด้วยสายตาที่ดูอบอุ่นและเล่าให้ฟังว่า “เจนมีหลายอย่างที่เขาไม่มี เหมือนมาเติมเต็มเรา เมื่อเวลาเขาอยู่ในกลุ่มเขามีความเป็น Leader มีความเป็นหัวโจกหน่อยๆ แถมเป็นสาวฮอตคนนึงเลยก็ว่าได้ ในขณะที่ตัวเขาเอง เมื่ออยู่ในกลุ่มมีความ Isolate หน่อยๆแต่นั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะเขาเป็นน่ารัก เราอยากได้ความน่ารักของเขาบ้างมาอยู่ในตัวเรา และที่เห็นว่าเราอยู่กันได้นาน ก็เพราะว่าเราเรียนรู้ซึมซับความดีของกันและกัน ที่สำคัญเขาเป็นคนทำให้เรารู้สึกเป็นคนที่ดีขึ้นอีกด้วย อย่างบางทีเราเองก็มีข้อเสียคือเป็นคนชอบขึ้นเสียงกับคนใกล้ตัว ในขณะที่เจนเกลียดคนที่ชอบขึ้นเสียงมาก และเมื่ออยู่ดันมาเรื่องๆ เขาจึงได้ปรับตัวและทำให้มันเบาลง ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วที่เราเปลี่ยนไปก็เพราะเขาเนี่ยแหละ”
ถ้าดูจากในคลิปต่างๆ เราจะเห็นว่าคุเจนดูเข้ากับครอบครัวของคุณบูมได้ดีมาก เราจึงอยากรู้ว่า คุณบูมมีวิธีเลือกคู่ชีวิตที่เข้ากับครอบครัวยังไง คุณบูมเล่าให้ฟังอย่างหนักแน่นว่า “คนที่เข้ากับครอบครัวได้คือคนที่ครอบครัวยอมรับ อย่างเจนเองก็ผ่านมาแล้วหลายด่าน แล้วเตัวจนเองเป็นคนน่ารัก เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี ทำให้ญาติผู้ใหญ่ของผมก็รักเขา”
เห็นเรื่องราวความรักของคุณบูมและคุณเจนที่มีมากว่า 10 ปี อยากรู้กันมั้ยคะ ว่าเขาทั้งคู่มีการดูแลความสัมพันธ์ยังไง ถ้าอยากรู้เรามีคำตอบ
การดูแลความสัมพันธ์ในวันที่เปราะบาง
เมื่อเราถามถึงเรื่องการดูแลความสัมพันธ์ คุณบูมได้ยกตัวอย่างว่า “ผู้ชายเป็นตัวแทนของความเข้มแข็ง และผู้หญิงเป็นตัวแทนของความอ่อนโยน หากจะอยู่ด้วยกัน ผู้ชายต้องอ่อนโยนลง และ ผู้หญิงต้องเข้มแข็งขึ้น สุดมันก็คือ การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เลือกที่จะยอมในวันที่ควรจะยอม เลือกที่จะแข็งในวันที่ควรจะแข็ง เพราะหากเรายอมหมด เราก็จะเสียตัวตน หากเราแข็งหมดเราจะยอมกันไม่ได้เลย”
เราถามต่อว่าแล้วเวลามีปัญหาจัดการปัญหายังไง คุณบูมตอบแบบไม่ลังเล “ผมยอมครับ” แต่ทุกครั้งที่ยอมจะมีเหตุผลให้ทุกครั้งว่าทำไมต้องยอม มีการให้เหตุผล และ อธิบายเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงปัญหาและทางแก้ ซึ่งก็เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
การเดินทางของความรักเป็นเวลามากกว่า 10 ปี คนอื่นอาจจะมองว่านาน แต่สำหรับคุณบูม มองว่ามันจะมีไม่กี่ปีที่มีความเปลี่ยนเปลี่ยน เช่น 4 ปีหลังเรียนจบคุณบูมเรียนจบก่อนแต่คุรเจนยังเรียนรู้ ทำให้อาจจะมีปัญหา เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นเราจะมามองกันว่าเรายังมองไปในทางเดียวกันอยู่รึเปล่า จะเดินไปต่อไหม ในชีวิตที่เราเดินต่อไปเรายังอยากมีเขาอยู่ไหม เป็นการมองภาพใหญ่และแก้ปัญหาในช่วงเวลาเหล่านั้น
จากเท่าที่คุยกันมาเรามองว่าคุณเจนเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉามาก เราเลยถามต่อว่า ทำยังไงให้คุณเจนรู้สึกว่าเป็นน่าอิจฉาที่สุด คุณบูมหัวเราะก่อนตอบว่า “ผมคิดว่าเขามองว่าเขาเองไม่ได้น่าอิจฉาเท่าไหร่หรอก เราก็มีข้อเสียแต่ภาพที่ออกไปก็เป็นภาพดีๆ ที่ทุกคนได้เห็น”
มาถึงตรงนี้เราจึงอยากทราบถึงนิยามในชีวิตคู่ของคุณบูม คุณบูมตอบว่า
“คิดว่าชีวิตคู่ที่เวิร์ค คือชีวิตคู่ที่ได้เรียนรู้กัน เหมือนชีวิตที่อีกคนสอนอีกคนได้ ทั้งสองได้เรียนรู้ในแบบที่ตัวเองไม่ถนัดและแลกเปลี่ยนจนเป็นคนที่ดีกว่าเดิม”
จากที่นั่งคุยกันมาไม่นานแต่ก็สัมพันธ์ได้ถึงความจริงใจ ความรักที่คุณบูมมีให้กับคุณเจน บางคำอาจร้อยเรียงออกมาเป็นประโยคไม่ได้ แต่สัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีให้คนรักที่แท้จริง นอกจากเรื่องหัวใจของคุณบูมแล้วนั้น เราอยากรู้มุมมองความรักของคุณบูมว่าเป็นยังไง จึงออกมาเป็นทัศนะเหล่านี้
ทัศนคิติด้านความรักที่เฉียบคมในมุมมองของบูม ธริศ
Q : คิดยังไงกับการที่ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อน
A: พี่บูมตอบแบบสบายๆ “ผมชิวนะ ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องผิด ผมว่ายุคนี้มีทั้งผู้ชายจีบผู้หญิงก่อน และ ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อน แต่จะมีคนที่ Awkward ซึ่งมันจะอึดอัด ผมมองว่าใครจีบใครก่อนก็ได้ แต่อย่าให้มีจุดที่อัด”
Q : คิดยังไงกับการแต่งก่อนอยู่ หรือ อยู่ก่อนแต่ง
A: “ข้อนี้ผมก็ชิว ทั้งสองแบบมีข้อสองข้อมีทั้งข้อดี ข้อเสียที่ต่างกัน ผมมองว่าโลกนี้เป็นยุคใหม่ คงไม่มีใครออกมาตัดสินกันด้วยเรื่องอยู่ก่อนแต่งหรือแต่งก่อนอยู่แล้ว คุณค่าของคนมันไม่ได้มองแค่ระดับพื้นฐานแล้ว ในยุคนี้สังคมยอมรับกันด้วยเรื่องทางความคิด ทัศนคติมากกว่าจะมองว่าอยู่ก่อนแต่งหรือแต่งก่อนอยู่”
Q: คิดว่าผู้หญิงไทป์ไหนคือผู้หญิงที่ผู้ชายต้องการ
A: “ ผู้หญิงที่รู้จักคุณค่าของตัวเอง เหมือนได้ลดความเป็นตัวเองเพื่อผู้ชายคนนึง เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมีเส้นทางของตัวเอง โดยไม่มองว่าต้องมีผู้ชายหรือมีผู้ชาย”
สรุป 3 เทคนิคในทุกด้านจาก บูม ธริศ
วิธีหาตัวตนหากอยากทำช่อง Youtube
สำหรับคนที่รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าจะไปทางไหนไม่ใช่เรื่องอยาก แต่หากว่ายังไม่รู้ให้ลองทำคลิปออกมาสักคลิป ถ้าคลิปแรกไม่รู้ ลองทำหลายๆคลิปแล้วกลับมามองว่าเราชอบแบบไหน เราต้องเอา Output ของเรากลับมาก่อน
เคล็ดลับการคู่ชีวิต
สำหรับเลือกคู่ชีวิตต้องถามก่อนว่าอยากมีชีวิตแบบไหน อยากใช้ชีวิตยังไง ชีวิตคู่สองคนต้องมองเห็นภาพเป็นภาพเดียวกัน รวมเรื่องถึงครอบครัวด้วย
วิธีการรักษาความสัมพันธ์
สุดท้ายหนีไม่พ้นคำว่า คุยกันบ่อยๆ สื่อสารกันสุดท้ายคุยกัน ฟังกัน ปรับจูนกัน และ เข้าใจความต้องการของคนสองคน เป็นการจูนกันไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากคุยประเด็นที่น่าสนใจกันหมดแล้ว ทุกคนอยากรู้ไหมว่า คุณบูมอยากมีลูกไหม งานนี้ไม่รอช้า เราแอบกระซิบถามว่าคุณบูมอยากมีลูกไหม พี่บูมบอกว่า “อยากมีลูก” มีแพลนไวไวนี้ เขามองว่าเขาเป็นคนที่ Adaptable สามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์ เรียกว่าจินตนาการออกมองเห็นภาพตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน งานนี้อดอมยิ้มไม่ได้เลย
หลังจากที่คุยกันมาทั้งหมดเราได้เห็นมุมมองหลายมุมที่คิดไม่ถึง และ ดูเฉียบคม นอกจากการทำงานที่มีสไตล์มีความจริงใจกับงานที่ทำแล้วนั้น เขายังเป็นคนที่มีทัศนคติการดูแลความสัมพันธ์ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้ทั้งชีวิตการทำงานและความสัมพันธ์ได้ ไม่มากน้อย รอบหน้าเราพาเจาะลึก Exclusive แบบนี้กับใครอีก อย่าลืมกดติด Jeab.com ไว้ให้ดีนะคะ ไม่งั้นระวังจะคุยกับเขา ไม่รู้เรื่อง
ขอขอบคุณคลิปวิดิโอประกอบจากช่อง Boomtharis
Copyright@Jeab.com
