“การตื่นเช้า” เป็นหนึ่งในปณิธานที่หลายๆ คนตั้งใจจะทำให้ได้ในปีใหม่นี้ แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังทำไม่เคยสำเร็จสักที แม้ว่าจะพยายามแค่ไหน สุดท้ายก็ยังตื่นสายเช่นเดิม นั่นเพราะร่างกายคุ้นชินกับการตื่นในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เราทุกคนสามารถปรับนาฬิกาชีวิตใหม่ได้ ถ้าหากคุณจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ นี่คือ 5 วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คุณตื่นเร็วขึ้นกว่าเดิม
1. Ease Into It ปรับเวลาตื่นให้เช้าขึ้นทีละนิด
“วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณตื่นเช้า ก็คือคุณต้องตื่นเช้า” ลองปรับเวลาตื่นนอนด้วยการตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้น (อย่างมีเหตุผล) แต่อย่าหักโหมด้วยการตั้งเวลาแบบก้าวกระโดดข้ามเป็นหลายชั่วโมง เช่น เคยตื่นตอน 8 โมง แล้วตั้งให้ตื่นตอนตี 5 การกระทำเช่นนั้นจะทำให้ร่างกายของคุณปรับตัวไม่ทัน คุณอาจจะง่วงในตอนกลางวัน หรือไม่ตื่นเลยก็เลย ลองปรับเวลาตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นสัปดาห์ละ 30 นาที และห้ามเลื่อนปลุกโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังควรรักษามาตรฐานการตื่นในวันหยุดของคุณด้วย แม้ว่าเมื่อคืนคุณจะนอนดึกหรือดื่มหนักแค่ไหน
2. Unplug Before Bedtime ปิดทุกอย่างให้หมดก่อนเข้านอน
การเล่นสมาร์ทโฟน เล่นคอมพิวเตอร์ หรือเล่นโซเชียลมีเดียก่อนเข้านอน เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายของคุณตื่นตัวจนไม่ยอมนอนแล้ว ข้อความหรือเรื่องราวบางเรื่องในนั้นอาจจะทำให้คุณกังวล สงสัย และนำเก็บมาคิดจนนอนไม่หลับ ทางที่ดีที่สุดคือการปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด รวมถึงคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้รีแลกซ์ พร้อมเข้าสู่ช่วงการพักผ่อนอย่างเต็มที่
3. Get Fresh Air And Exercise สูดอากาศดีๆ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อากาศดีๆ และแสงแดดจะช่วยเพิ่มพลังงานในแต่ละวันด้วยการควบคุมปริมาณของเมลาโตนินให้น้อยลง เพื่อลดอาการง่วงนอน การออกกำลังกายจะช่วยปรับนาฬิกาชีวิตให้อยู่ในภาวะสมดุล อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด ความประหม่า และปรับร่างกายให้เตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน ส่วนกาแฟและการงีบหลับระหว่างวันนั้น ควรรับประทานให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับระบบนาฬิกาชีวิต
4. Set Your Environment ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอนหลับ
ลองเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดธรรมดาให้เป็น Smart Bulbs ที่จะสามารถปรับแสงสว่างในปริมาณที่พอเหมาะกับช่วงเวลาในแต่ละวัน The National Sleep Foundation แนะนำว่าก่อนนอนควรปิดไฟให้มืดสนิท รวมถึงปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ 15 – 19ºC จะทำให้นอนหลับไวขึ้น ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่าควรหาน้ำดื่มสักแก้ววางไว้บนหัวเตียง และดื่มทันทียามตื่นนอนเพื่อลดอาการกระหายและเมื่อยล้าจากการนอนได้
5. Figure Out How Much Sleep Your Body Needs สำรวจตัวเองว่าต้องการการพักผ่อนมากแค่ไหน
หลายคนอาจจะคุ้นชินกับกฏทองที่ว่า “ควรนอนวันละ 8 ชั่วโมง” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าการนอน 8 ชั่วโมงไม่สามารถใช้ได้ผลกับทุกคน เพราะเมื่อทุกคนพยายามจะนอนให้ได้ 8 ชั่วโมง หลายคนมักจะบังคับตัวเองให้นอนตามเวลานั้นๆ แม้ว่าร่างกายยังไม่พร้อมที่จะนอน นั่นจะกลายสิ่งที่จะก่อให้เกิดความกังวลและนอนไม่หลับตามมา สิ่งที่ควรทำคือเข้านอนเมื่อเริ่มรู้สึกง่วง ไม่ควรฝืนอยู่จนดึก เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ก็จะตื่นอัตโนมัติโดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งนาฬิกาปลุกอีกต่อไป
เพียงเท่านี้คุณก็บอกลาการนอนตื่นสายไปได้เลย