5 STEP ก่อนซื้อเครื่องซักผ้าที่คุณควรรู้ เพื่อเลือกซื้อมาใช้งานให้เหมาะสม

washing machine (2)

‘เครื่องซักผ้า’ เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แต่ละบ้านนิยมมีไว้ เพื่อทุนแรงและประหยัดเวลาในการซักผ้า แน่นอนว่ามันไม่ได้มีเพียงรุ่นเดียว ที่เราสามารถใช้ได้เหมือนกันหมดทั่วโลก แต่กลับมีหลายรุ่น แบ่งแยกตามคุณสมบัติต่างๆ ที่ทำขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกันไป ซึ่งถ้ามีเยอะแบบนี้ แล้วเราต้องการหาซื้อเครื่องซักผ้าสักเครื่องเข้ามาใช้งาน หรือซื้อเพื่อเปิดธุรกิจร้านซักรีด รับซักผ้า ต่างๆ นานากันล่ะ เราจะต้องทำยังไง จะรู้ได้อย่างไรว่าเลือกเครื่องซักผ้าแบบไหน แล้วถึงจะเหมาะสมกับความต้องการของเราได้ดีที่สุด ประหยัดทั้งเงิน เหมาะสมทั้งหน้าที่ใช้งาน และ ประหยัดไฟกันด้วยล่ะเนี่ย…

อย่าเพิ่งกังวลกันไป วันนี้ LivingOops! มีคำแนะนำดีๆ 5 STEP ก่อนซื้อเครื่องซักผ้าที่คุณควรรู้ เพื่อเลือกซื้อมาใช้งานให้เหมาะสมมาฝากให้ได้ชมและใช้พิจารณากันดู แล้วคุณจะได้รู้ว่าคุณต้องการเครื่องซักผ้าแบบไหน แล้วเครื่องซักผ้าแบบไหนที่เหมาะกับบ้านของคุณกัน…

STEP 1 รู้ปริมาณของเสื้อผ้าที่ต้องการจะซักในแต่ละวัน

washing machine (3)

เป็นเรื่องแรกที่คุณควรพิจารณากันก่อน บ้านของคุณมีสมาชิกอยู่ทั้งหมดกี่คน จะต้องซักผ้าเยอะขนาดไหนในแต่ละรอบ แต่ละคนใส่เสื้อผ้าเยอะแค่ไหน น้ำหนักของเสื้อผ้าเหล่านั้น คิดเป็นกี่กิโลกรัม ลองกะปริมาณกันดูว่าเสื้อผ้าแต่ละตัว จะหนักประมาณเท่าไหร่กันค่ะ ซึ่งปริมาณคร่าวๆ สำหรับบ้านที่มีสมาชิกอยู่ 1-3 คน ปริมาณผ้าที่ต้องการซักจะอยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม หรือหากมีจำนวนสมาชิก 4 คนขึ้นไป ปริมาณผ้าที่จะซักจะอยู่ที่ 6-8 กิโลกรัม ซึ่งจุดนี้ จะเป็นตัวช่วยให้คุณนำไปคำนวณปริมาณของผ้าทั้งหมดที่ต้องซักในแต่ละรอบกันได้ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับขนาดของเครื่องซักผ้าที่ต้องซื้อกันได้นั่นเองค่ะ

STEP 2 รู้จักประเภทของเครื่องซักผ้า

washing machine (4)

อย่างที่เราเกริ่นไปข้างต้น เครื่องซักผ้ามีหลายแบบ หลายรุ่น แถมยังทำออกมาหลายความต้องการใช้งานอีกต่างหาก แบบนี้จะเลือกได้อย่างไร เราก็ต้องรู้กันซะก่อนว่าเครื่องซักผ้าแต่ละแบบ แตกต่างอย่างไร ซึ่งจะเป็น STEP ถัดมาให้คุณใช้พิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้ากันได้นั่นเอง โดยปกติแล้ว เครื่องซักผ้าจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันค่ะ คือ

1.เครื่องซักผ้าแบบฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซักผ้าครั้งล่ะน้อยๆ
-ข้อดี คือ สามารถซักได้หลายครั้ง โดยไม่ต้องเปลี่ยนน้ำใหม่ มีราคาไม่แพง
-ข้อเสีย คือ ไม่สามารถซักและปั่นหมาดได้ในที่เดียวกัน ต้องย้ายผ้าระหว่างถังซักและถังปั่นหมาด ทำให้เกิดความไม่สะดวกสบาย

2.เครื่องซักผ้าแบบฝนบนหนึ่งถัง (กึ่งอัตโนมัติ) เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย รักความสะดวกสบาย
-ข้อดี คือ มีรุ่นที่ราคาปานกลาง สามารถซื้อได้ไม่ยาก มีโปรแกรมการใช้งานให้เลือกที่หลากหลาย
-ข้อเสีย คือ บางรุ่นมีราคาสูง และ โปรแกรมการใช้งานอาจไม่เยอะเท่าแบบฝาหน้า

3.เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ และ คนที่ต้องการรักษาผ้า
-ข้อดี คือ สามารถถนอมผ้าได้ จุผ้าที่ซักได้ปริมาณมาก ใช้พลังการซักผ้าน้อย และซักได้ใกล้เคียงกับซักมือที่สุด
-ข้อเสีย คือ ราคาสูง และ ต้องให้ช่างเป็นผู้ติดตั้งให้

4.เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ที่ซักผ้าและอบผ้าได้ในตัว เหมาะสำหรับคนที่ซักผ้าน้อย แต่บ่อย
-ข้อดี คือ สามารถถนอมผ้าได้ และ สามารถอบผ้าได้ในตัว
-ข้อเสีย คือ ราคาสูง และ ผ้าที่อบ อาจไม่สะอาดปลอดภัยเท่ากับการตากแดด

STEP 3 พิจารณาแบรนด์เครื่องซักผ้าต่างๆ ที่ตรงกับการใช้งาน
หลังจากที่เราทราบประเภทของเครื่องซักผ้าแล้ว เราก็จะรู้ว่าเครื่องประเภทไหนที่เหมาะกับบ้านของเรา และ การใช้งานที่เราต้องการ เราก็จะสามารถโฟกัสจุดที่ต้องการพิจารณาต่างๆ กันได้แล้ว โดยเลือกจากแบรนด์สินค้าที่ต้องการ จากนั้นก็ลองพิจารณาแบรนด์ต่างๆ ในด้านของขนาด ปริมาณผ้าที่ซัก ราคาของเครื่อง รอบปั่นหมาดเป็นอย่างไร วัสดุที่ใช้ คงทนหรือไม่ เป็นต้น

STEP 4 ไปดูเครื่องซักผ้าของจริง ฟังคำแนะนำจากพนักงานขาย

washing machine (1)

แน่นอนว่าหลังจากได้เครื่องซักผ้าประเภทที่สนใจเรียบร้อยแล้ว อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจไปถึงซื้อเลย ลองไปเดินชมแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ดูเครื่องซักผ้าหลายๆ แบบกันซะก่อนอีกครั้งนะคะ และลองขอคำแนะนำจากพนักงานขายกันดูในรุ่นที่เราสนใจ เนื่องจากพนักงานขาย จะรู้ถึงปัญหาของการใช้งานได้ดี จะมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ให้คำแนะนำเรา ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าควรซื้อรุ่นที่เราคิดมาจริงหรือไม่ อย่างไรกันนั่นเองค่ะ

STEP 5 การรับประกันและบริการหลังการขายดีหรือไม่
อีกเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม ในการตัดสินใจก่อนจะซื้อเครื่องซักผ้า เนื่องจากเครื่องซักผ้ารวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีอายุการใช้งาน เมื่อเราใช้ไปนานๆ ย่อมมีการเสื่อมเกิดขึ้น ดังนั้นหลังได้แบรนด์ที่ต้องการ รุ่นที่จะซื้อกันแล้ว เราต้องมองเรื่องการรับประกันและบริการหลังการขายกันด้วยค่ะ บางร้าน บางห้างสรรพสินค้า มีเครื่องซักผ้ารุ่นเดียวกันมากมาย แต่การบริการที่ดี จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเรา หากบริการหลังการขายไม่ดี ก็ควรพิจารณากันดูใหม่อีกครั้ง อาจจะเปลี่ยนสถานที่สำหรับการซื้อ เพื่อให้เราได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

เมื่อเรารู้ 5 STEP นี้ เรียบร้อยแล้ว เราก็จะตัดสินใจได้ว่าเครื่องซักผ้าแบบไหน ที่เหมาะกับบ้านเราที่สุด ได้แบบ ได้รุ่น ก็ลองหาโปรโมชั่น แล้ว คลิก > เลือกซื้อเครื่องซักผ้ารุ่นที่ต้องการได้เลยที่นี่

ติดตาม Jeab.com
Jeab.com มี LINE แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวไลฟ์สไตล์ทันสมัยสำหรับผู้หญิงยุคดิจิตอล ได้ทุกวันผ่าน LINE ID @jeabdotcom
1 Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.