เมื่อไม่นานมานี้ Apple เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ล่าสุด รุ่นที่ 10 ออกมาให้ได้ยลโฉมกัน สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาเรามากๆ เลย ก็คือ สีสันของ iPad รุ่นนี้ มันเป็นสีที่สดใสมาก แถมมาพร้อมกับสเป็กที่ดีกว่าเดิม ในวันนี้ Jeab.com เลยไม่พลาดที่จะหยิบมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันด้วยค่ะ
โดยวันนี้เราจะมารีวิว iPad 10 สีชมพู รุ่น Wifi + Cellular ไว้เป็นตัวเลือกให้กับเพื่อนๆ กัน ว่าแต่ว่า iPad 10 รุ่นนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราก็ได้รีวิวสรุปมาให้แล้วใน 10 ข้อด้านล่างนี้ มาดูกันเลย…
1.ไม่มีปุ่ม home แล้ว มาพร้อมกับจอแบบใหม่
iPad 10 รุ่นนี้ จอภาพเค้าออกแบบมาใหม่หมด เป็นจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ซึ่งจะคล้ายๆ กับหน้าจอของ iPad Air รุ่น 5 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะแตกต่างกับหน้าจอของ iPad ปกติรุ่น 9 เพราะตอนนี้จะไม่มีปุ่ม home ให้ใช้งานแล้วด้วย ขณะเดียวกัน มีปุ่ม touch screen ให้แสกนนิ้วเพื่อเข้าใช้งานด้านข้างด้วยล่ะ
2. สีสันสดใสมากๆ
iPad 10 ออกมาให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเงิน ชมพู เหลือง ฟ้า และมี 2 แบบให้เลือก คือ แบบที่มี Wifi อย่างเดียว และ Wifi + Cellular โดยมีขนาดพื้นที่ความจุให้เลือก 2 ขนาดด้วยกัน คือ
- ขนาดพื้นที่ความจุ 64 GB ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท
- ขนาดพื้นที่ความจุ 256 GB ราคาเริ่มต้น 23,900 บาท
โดยทั้ง 2 ความจุ สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil Gen 1 (โดยมีตัวเชื่อมคือ USB-C) และ ใช้งานกับ Magic Keyboard Folio รุ่นใหม่ได้ โดยตัวเครื่องจะมีอุปกรณ์มาให้คือสายชาร์จ USB-C และอะแดปเตอร์
สำหรับเครื่องที่เราจะมารีวิว จะเป็นแบบ Wifi + Cellular ก็จะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านข้าง ก็ทำให้สามารถพกไปใช้งานนอกสถานที่ หากไม่มี Wifi ก็ใช้เป็นเน็ตจากซิมไปแทนได้ด้วย
3. การใช้งานลื่นไหล รวดเร็ว
มาพร้อมกับ ชิป A14 Bionic และมาพร้อมกับ Neural Engine แบบ 16‑core สมองกลที่ฉลาดขึ้น ทำให้การใช้งานต่างๆ ลื่นไหล รวดเร็วมากขึ้นไปอีก
4. จดโน้ตแล้วเปลี่ยนตัวเขียนเป็นตัวพิมพ์ได้ด้วย
ถูกใจสายจดโน้ตแน่นอน เรานี่ปลื้มมาก คือ การใช้งานร่วมกับ Apple Pencil แม้ปากกาที่ใช้ร่วมกันจะเป็น Gen 1 แต่การใช้งานลื่นไหลดีมาก และคือถ้าใครชอบจดโน้ต iPad 10 ถือว่าใช้กับการจดโน้ตได้ดีทีเดียว มีฟังก์ชันเปลี่ยนข้อความที่เราเขียนจาก Apple Pencil ให้กลายเป็นตัวหนังสือแบบพิมพ์เป็นระเบียบเรียบร้อยให้เลย เราชอบที่แบบเวลาเราจดโน้ตเร็วๆ ตัวหนังสืออาจจะดูไก่เขี่ยไปบ้าง ไม่ตัวบรรจงสวยงาม แต่ AI ของ Apple ก็อ่านออก
วิธีการใช้งานให้จดโน้ตแล้วเปลี่ยนเป็นการพิมพ์ข้อความให้ : ให้เลือกที่ตรงเครื่องมือปากกา แต่เลือกเป็นรูปปากกาที่มีตัวอักษร A อยู่นะคะ ไม่งั้นเราจดไป อาจจะงงได้ว่าทำไมไม่เปลี่ยนเป็นตัวพิมพ์ให้
เพื่อให้การจดโน้ตเป็นไปถูกต้องมากขึ้น และ ถือว่าช่วยให้ AI เข้าใจเรามากขึ้นด้วย เวลาจะจดอย่าลืมเลือกภาษาที่จะให้ AI รู้ด้วยนะคะ ซึ่งภาษาที่ให้เลือกก็จะตามที่เราตั้งค่าไว้ นอกจากนี้เรายังสามารถเขียนชื่อเว็บไซต์ด้วยปากกาตรงช่อง url แล้วให้ AI เปลี่ยนเป็นตัวพิมพ์ พาเราไปท่องเว็บไซต์ที่ต้องการได้ด้วยนะ หรือจะใช้เขียนตรงช่อง search ก็ได้
Trick :
- เวลาเขียนโน้ต แน่นอนมันต้องมีการเขียนผิดบ้าง ถ้าจะลบ ก็แค่ขีดๆ ที่ตัวหนังสือที่เราเขียนไป เดี๋ยวตัวพิมพ์ก็จะลบหายไปด้วยเอง ดีงามมาก
- เวลาเราอยากเอาเม้าส์ไปชี้ที่ตัวหนังสือไหน ก็ใช้ปากกาเขียนขีดคั่นลงไปตรงๆ ได้เลย เคอร์เซอร์เม้าส์ก็จะย้ายไปตรงนั้น
- สามารถไปทดลองการเขียนดูก่อนได้ที่ Try Scribble ในหน้า Setting ของ Apple Pencil กันนะ
5. วาดภาพได้ลื่นไหลกว่าเดิม
สายชอบวาด สายกราฟฟิกก็ถูกใจ เพราะชิป A14 ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น จากที่ลองใช้วาดภาพใน Procreate ดู ความรู้สึกเมื่อเทียบกับที่เคยใช้ใน iPad รุ่นก่อน ก็คือ iPad 10 ลื่นไหลกว่ามากๆ
6. เป็น Multiscreen ไม่จำกัดอยู่ที่แค่หน้าจอเดียวแล้ว
iPad 10 สามารถใช้งานหลายๆ แอปพร้อมกัน อยากจะจดโน้ต แต่ขณะเดียวกันก็อยากจะเปิดคลิปดู หรือ การเข้าแอปอื่น ก็ทำได้ เพียงแค่ลากแอปนั้นขึ้นมาบนหน้าจอ ตัวหน้าจอก็จะแบ่งพื้นที่ ให้เราสามารถใช้งานทั้งสองแอปพร้อมกันได้เลย และเราสามารถเลือกว่าจะแบ่งสัดส่วนหน้าจอยังไงได้ด้วย เวลาทำงาน ถ้าแบบต้องการข้อมูลอ้างอิง หรือ หาข้อมูลมาเขียนงาน เราก็ไม่ต้องแบบเข้าออกแอปหลายๆ รอบ เพื่อดูข้อมูลจากแอปนั้น แล้วกลับมาแอปนี้อีกแล้ว เพราะเปิดพร้อมกัน ใช้งานไปพร้อมๆ กันได้เลย
7. กล้องมีคุณสมบัติให้อยู่ตรงกลางตลอดเวลา
ในส่วนของกล้อง iPad 10 มาพร้อมกับกล้องอัลตราไวด์ในแนวนอน กล้องหลังความละเอียด 12 MP มีคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง แบบเวลาที่เรา Meeting online หรือ ใช้กล้องหน้าคุย Facetime ตัวเรามูฟไปทางไหน กล้องก็จะเคลื่อนตามไปด้วย ทำให้เราอยู่ตรงกลางหน้าจอตลอดเวลาได้
8. ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกในการใช้งาน
อีกหนึ่งสิ่งที่รู้สึกว่าเวิร์กมากๆ สำหรับใครที่ใช้ iPad ในการทำงาน คือ ถ้าเวลาที่เราต้องพกพาไปประชุม หรือ ไปทำงานนอกสถานที่ บางครั้งการแบกโน้ตบุ๊กไปด้วย ก็หนักเอาการ ซึ่งการที่ iPad 10 มี Keyboard ไปด้วย ก็ช่วยให้การทำงานนั้นราบรื่นขึ้นเยอะ อีกทั้งน้ำหนักก็เบากว่ามาก
ซึ่ง iPad 10 สามารถใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard Folio หลังจากเราลองใช้งานจริงๆ พิมพ์งานที่จะเขียนรีวิวนี้จริงๆ จังๆ ก็พบว่า มันพิมพ์ได้ไม่ต่างจากคีย์บอร์ด Macbook ที่เราใช้เลย จากที่กลัว่ามันจะหน่วงหรือเปล่า จะ support การพิมพ์ไวๆ ของเราได้มั้ย ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวนะ ไม่ติดขัด และ ยังสามารถปรับภาษาเหมือนกับคีย์บอร์ดของตัว Macbook ก็ถือว่าใช้งานได้ถนัด ไม่สะดุดเท่าไหร่เลย ซึ่งถ้าสังเกต ตัว Magic Keyboard Folio รุ่นใหม่นี้จะมีแถบฟังก์ชันด้านบน ไว้สำหรับกดปรับการตั้งค่าต่างๆ เสมือนกับแถบฟังก์ชันใน Macbook ด้วยล่ะ
วิธีติดตั้ง Magic Keyboard Folio ตัวเคสคีย์บอร์ดจะมีมาด้วยกัน 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งเป็นฝาปิด จะมีแม่เหล็กในการเชื่อมติดกับตัวเครื่อง iPad เอง อีกชิ้นเป็นส่วนของคีย์บอร์ด ตรงนี้ก็จะมีพอร์ตสำหรับเชื่อมกัน มองหาจุดสามจุดที่ตัว iPad เราแล้วก็แปะเชื่อมกันเข้าไปได้เลย
9. สลับโหมดใช้งานได้ ระหว่างจะจดโน้ต หรือ จะใช้ Keyboard ก็ได้
อีกอันที่ยอมรับว่า Apple ทำมาได้ดี คือ ตัวคีย์บอร์ดสามารถพลิกสลับด้านที่เราต้องการใช้งานได้ แบบ ถ้าจะสลับจากใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ข้อมูลต่างๆ ไปใช้เป็นปากกาวาดรูปแทน เราอาจจะต้องพับตัวเคสให้แป้นคีย์บอร์ดย้ายไปด้านหลัง ซึ่งเวลาวางลงไปบนโต๊ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะกดตัวหนังสือแบบออโต้ให้นะ เพราะเหมือนเราเปลี่ยนด้านปุ๊ป AI ก็จะเข้าใจว่าเราไม่ได้ใช้งานส่วนนั้น ดังนั้นมันก็จะไม่พิมพ์หรือข้อความใดๆ ที่ตัวคีย์บอร์ดกดโดนด้วยล่ะ
10. ใช้งานกับ iPad OS 16 ขึ้นไป
เราจะเห็นความฉลาดของ AI ของ Apple มากขึ้น เราสามารถไดคัทรูปต่างๆ เหมือนใน iPhone ใน iPad ได้เช่นเดียวกัน และ copy นำไปลง presentation ที่เราจะทำนำเสนอ หรือ แอปอื่นๆ ที่รองรับได้ด้วย หรือ จะ copy text จากในวิดีโอก็ทำได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ iPad OS 16 เหมือนกับ iOS 16 ของ iPhone นั่นเอง
สำหรับใครที่สนใจ ตอนนี้ iPad 10 ก็วางจำหน่ายแล้วนะคะทาง apple.com หรือจะไปลองเล่นกันดูที่ shop ก่อนก็ได้เช่นกัน แต่ละสีคือสวยมากๆ แต่สีชมพูที่เราใช้ก็จะสดใสๆ สไตล์ Jeab.com เลยล่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจกันอยู่ไว้พิจารณาได้มากขึ้นนะคะ
Copyright © Jeab.com