ว่าด้วยเรื่องของการ #หมดPassion แฮชแท๊กยอดฮิตในปัจจุบันนี้เอง แต่ที่วันนี้เราจะมาพูดถึง ไม่ใช่เรื่อง Passion ในความรักแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของการงานล้วนๆ หากเพื่อนเคยเสิช Google คำว่า “หมด Passion” คำที่ตามมานั้นคือ “หมด Passion ในการทำงาน” ถือเป็นคำยอดฮิตที่คนค้นหาบ่อยเลยทีเดียว แน่นอนเลยว่าหลายคนต้องเคยรู้สึก “หมด Passion” หรือการ “หมดการหลงใหลในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง” บางครั้งอาจไม่ได้เกิดจากเพราะสิ่งๆ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่สำหรับเราไปซะหมดหรอก แต่อาจเกิดจากสาเหตุที่เราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำๆ มากเกินไป แม้แต่ก่อนจะเคยรู้สึกมีไฟแต่จู่ๆ ทำไมน่ะ!?! เราถึงได้เกิดอาการเบื่อหน่ายและหมด Passion ได้ขนาดนี้
สาเหตุของแต่ละคนนั้นก็อาจจะแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่ควรที่จะละทิ้งแพชชั่นนั้นๆ ไปเลยซะทีเดียว วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ย้อนกลับไปคิดทบทวนกันว่า อะไรคือแพชชั่นที่เราค้นหา พร้อมที่เราจะกู้แพชชั่นของเราให้กลับคืนมามีชีวิตชีวาพร้อมๆ กัน เริ่ม!
ข้อ 1 มองหาสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดี
ข้อนี้คือการว่าด้วยเรื่องของ “การทบทวนตัวเอง” เลย สิ่งที่เรากำลังทำนั้นคือสิ่งที่เราถนัดอยู่รึเปล่า? บางคนอาจได้คำตอบว่าใช่หรือไม่ใช่อยู่ในใจแล้ว หากว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ใช่แล้ว เราอาจหมดแพชชั่นด้วยเรื่องอื่น แต่หากว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เราถนัด แล้วเรายังทำได้ไม่ดี อาจลองกลับมาทบทวนตัวเองดีๆ และลองมองหาสิ่งอื่นที่เราถนัดและทำได้ดีกว่า
ข้อ 2 มองหาสิ่งที่เราทำได้ดีในตอนเด็ก
หากว่าเพื่อนๆ พลาดกับข้อ 1 ไป คือ “สิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เราถนัด แล้วเรายังทำได้ไม่ดีอีก” แต่ยังไม่รู้ชัดว่าสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีคืออะไร ลองมองย้อนกลับไปในตอนวัยเด็กว่า สิ่งที่เราทำได้ดีในตอนเด็ก คืออะไร เช่นบางคนอาจเล่นดนตรีได้ดี หรือบางคนชอบวาดรูป แม้ว่าเราจะไม่ต้องไปเล่นดนตรีจนขนาดกลับไปเป็นนักดนตรี แต่เราก็สามารถนำสิ่งที่เราทำได้ดีในสมัยวัยเด็ก มาผสมผสานกับสิ่งที่เราทำได้ในตอนโต หรืออาจทำเป็นงานอดิเรกเพิ่มเติมให้กับชีวิต
ข้อ 3 อะไรที่ทำให้รู้สึกเสียเวลา นั้นไม่ใช้ Passion ของคุณ!
ข้อนี้อาจฟังดูรุนแรง แต่มันคือการค้นหาตัวเองอย่างแท้จริง ลองทบทวนตัวเองดูว่า หากคุณรู้สึกเสียเวลาและไม่ได้อะไรในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เช่น ไม่ได้ประสบการณ์ ไม่ได้แสดงฝีมือ หรือทำไปวันๆ นั้นแปลว่า “สิ่งนั้นไม่ใช่ Passion ของคุณ” หากแต่ว่าเรารู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังทำนั้น เรายังได้รับการฝึกฝน ได้อะไรหลายๆ อย่างจากการทำนั้นแปลว่า เพื่อนๆ อาจหมดแพชชั่นจากสิ่งอื่น
ข้อ 4 ใช้ชีวิตให้อิสระขึ้น ลองทำอะไรใหม่ๆ อาจได้เจอแพชชั่นใหม่
ลองใช้ชีวิตอย่างอิสระดูบ้าง แต่การใช้ชีวิตแบบอิสระในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ให้เราละเลยในหน้าที่การงาน แต่คือการใช้เวลาว่างในการออกไปทำอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยได้ทำ บางครั้งความรับผิดชอบและความเคร่งเครียด ทำให้เราเกิดความไม่อิสระขึ้น แม้ว่างานที่เราทำนั้น จะเป็นงานที่ใช้แล้ว แต่หากทำแบบเดิมซ้ำๆ โดยไม่หากิจกรรมใหม่ๆ ให้กับชีวิต แน่นอนว่าเราจะต้องเบื่อ และหมดแพชชั่นไวแน่ๆ ดังนั้นลองหาเวลาที่ว่างๆ ละทิ้งความเครียดต่างๆ แล้วออกไปทำในสิ่งใหม่ที่เราไม่เคยทำ อาจจะทำให้เราได้เจอแพชชั่นใหม่ๆ ในชีวิต หรือกิจกรรมที่ทำให้เราเลิกเบื่อก็เป็นได้
*มีงานวิจัยชี้ชัดว่าการได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ “ช่วยเพิ่มระดับ โตปามีน” ในสมอง ทำให้เกิดความสุขอีกด้วย*
ข้อ 5 คิดว่าการหา Passion เป็นเรื่องสนุก
ไม่ได้มีใครเคยเขียนกฏเกณฑ์ตายตัวของคำว่า passion ว่าเราจะต้องมีแค่แพชชั่นเดียวในชีวิตสักหน่อย แม้ว่าวันนี้เราจะเคยมีแพชชั่นกับงานนี้ ใช้ว่าอนาคตเราจะมีกับงานอย่างอื่นไม่ได้ ลองคิดซะว่าชีวิตคือการผจญภัย ตามหาแพชชั่นกันต่อไปเรื่อยๆ มีผิดบ้างถูกบ้าง ยังจะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามคำว่าแพชชั่นของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป แต่ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ที่เกิดอาการ #หมดแพชชั่น ได้กลับมาคิดทบทวนเรื่องต่างๆ ในชีวิตอย่างมีสติ และเกิดสิ่งที่ดีขึ้น #สู้กันต่อไปจ้า 🙂
อ้างอิงข้อมูลจาก : psychologytoday.com แพทย์หญิง Susan Biali
